วันเสาร์, 7 ธันวาคม 2567

WEREWOLF BY NIGHT กับประเด็นสำคัญ ความเชื่อมโยงและ Easter Eggs (สปอยล์)

หลังจากที่ MCU มีการนำเสนอเรื่องราวหนังแนวสยองขวัญเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ และน่าสนใจต่อจักรวาลหลักมากๆ เรื่องราวของ WEREWOLF BY NIGHT จะนำพาให้อนาคตของ MCU ขยายกว้างไปอีก และเชื่อได้ว่าเรื่องราวนี้คือจุดสำคัญของโทนดาร์กๆ อย่างเช่นแวมไพร์ Blade และ อสูรกาย ที่จะเข้ามาเป็นส่วนนึ่งของ MCU ในไม่ช้า การที่เราได้ชมหนังตอนพิเศษเรื่องนี้ เป็นการนำเสนออีกด้านนึงในจักรวาลหลักของเราที่มีเรื่องเล่าที่แปลกใหม่ ไม่จำเป็นต้องเหมือนสูตรเดิมในแบบที่เราดูหนังฮีโร่มา การที่ภาพในหนังเป็นขาวดำก็เพื่อจะสามารถให้เห็นความเลือดสาดได้มากกว่าที่เราจะเห็นสีแดงสดและดูเป็นการลดความรุนแรงลงนั่นเอง การปรากฏตัวของมนุษย์หมาป่าอย่าง Jack นักล่าอสูรอย่าง Elsa Bloodstond และอสูรที่ดูเหมือนจะใจดีแต่โหดใช่ย่อยอย่าง Man-Thing ซึ่ง WEREWOLF BY NIGHT ก็มีประเด็นสำคัญ ความเชื่อมโยง และ Easter Eggs มากมายที่แฝงอยู่ในหนังเรื่องนี้ ติดตามครับ

1. อินโทรตอนพิเศษ

จากเรื่องราวนี้เราก็จะได้เห็นอินโทรตอนพิเศษที่ประพันธ์โดย Michael Giacchino ที่ทำธีมเพลงเปิดตัว Logo ของ Marvel Studios ตั้งแต่ปี 2016 ตั้งแต่ในหนังเรื่อง Doctor Strange ซึ่งในเขาก็คือผู้กำกับของหนัง WEREWOLF BY NIGHT ตอนพิเศษนี้ด้วย ด้วยรูปแบบจังหวะดนตรีที่เป็นแนวบองโก มีแสดงไฟวิบวับ ซึ่งเป็นการได้รับแรงบัลดาลใจมาจาก การทำเสนอเรื่องราวตอนพิเศษของ CBS ในปี 1973 ซึ่งนี่ก็คือผลการทำอินโทรรายการนี้ของเขาเมื่อตอนเขาเป็นวัยรุ่น ซึ่งหลังจากอินโทรตอนพิเศษ เราก็จะเห็น Intro เข้า Logo ของ Marvel Studios อีกรูปแบบนึงที่เป็นโทนขาวดำคั่นจังหวะด้วยเสียงกรี๊ดและเสียงสัตว์ร้ายที่คาดว่าน่าจะเป็นเสียงมนุษย์หมาป่า พร้อมกับรอยกรงเล็บของมนุษย์หมาป่า จากนั้นในตอนท้ายก็เหมือนเป็นการโหมโรงจังหวะแทรกการร้องแบบโอเปร่าในจังหวะที่ดูคุ้นเลยทำให้ดูยิ่งใหญ่

2. เหล่าทีม Avengers กับ Timeline ของเรื่องราว

เปิดเรื่องมาเราจะเห็นเหมือนภาพวาดเหล่า Avengers รุ่นบุกเบิกทั้ง 6 คนพร้อมกับภาพที่แพนเลื่อนลงไปด้างล่าง ที่บอกว่าในโลกสมัยใหม่ปัจจุบัน มีที่อยู่ของเหล่าอสูรอยู่ในมุมความมืด เป็นการบอกให้เรารู้ว่านี่คือการทำเสนอเรื่องราวของ Marvel ที่เป็น Marvel Dark Universe ที่เล่าเรื่องราวของ Vampire Blade นักล่าแวมไพร์ Ghost Rider Moon Knight อสูรร้ายอะไรพวกนี้ ซึ่งจากทางเว็บไซต์ Disney+ ก็ได้มีการบอกถึงเรื่องราวของ WEREWOLF BY NIGHT ว่าไทม์ไลน์ของเรื่องนี้อยู่ต่อจาก Thor: Love and Thunder นั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นล่าสุดของ MCU นั่นเอง

3. เหล่าอสูรร้าย

ภาพที่แพนเลื่อนลงไปด้างล่างที่เหมือนอสูรก๊อบลินที่เป็นแวมไพร์ มีคำเป็นภาษาละติน XXVIM แปลว่าสัตว์ประหลาดมีปีก นอกจากนี้ยังมีรูปกริดมีดสั้นซึ่งน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ในการสังหารอสูรตัวนี้ รวมถึงแผนภาพของดวงจันทร์ แน่นอน Marvel Dark Universe และยึดดวงจันทร์หรือที่เราเรียกว่าจันทรคติเป็นจุดสำคัญของการมีพลังและอำนาจ ตามที่เราเห็นใน Moon Knight ภาพอสูรร้ายเหล่านี้รวมถึงประวัติที่มาของเขาและเรื่องราวของ Bloodstone นี่น่าจะเป็นหนังสือบันทึกของ Ulysses Bloodstone ชายผู้มีพลังจาก Bloodstone และมีชีวิตมายาวนาน ที่ล่าอสูรมาหลายร้อยตนตลอดช่วงชีวิตของเขา ซึ่งภาพและข้อความสื่อสารออกมาเป็นภาษาละตินนั่นบางบอกว่านี่คือหนังสือโบราณ ที่เคยเป็นเรื่องเล่าตามตำนานพื้นบ้าน แต่นั่นคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในเงามืดของจักรวาลนั่นเอง ซึ่งนอกจากอสูรก๊อบลินแล้ว เรายังได้เห็นอสูรเงือก 2 หัว ที่โดนสังการโดยหอกตรีศูล รวมถึงอสูรร้ายที่โดย Ulysses ใช้ธนูยิง

4. Ulysses และ Bloodstone

Ulysses Bloodstone เป็นมนุษย์ถ้ำมีอายุมาเป็น 10,000 ปี จากเศษ Bloodgem ที่ฝังอยู่ที่หน้าอกของเขา Bloodgem หรือ Bloodstone ทำให้เขามีอำนาจมาก มีพลังกำลังเหนือมนุษย์ เป็นอมตะ ทำให้อสูรเปิดเผยตัวตน และลดพลังความสามารถของอสูรลง แน่นอน Bloodgem เป็นอุกาบาทตกลงมายังโลก ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเดียวกับ อุกาบาตของไวเบรเนียมตกลงมา ซึ่งเราจะเห็นรูปที่ Ulysses ใช้ Bloodstone จ่อไปที่สัตว์ประหลาดตัวนึ่งที่เรียกว่า Big Foot นั่นเอง ตามคำบรรยายใต้ภาพได้บอกเอาไว้

5. พลังของ Bloodstone

ใน MCU Bloodstone เคยถูก Ulysses Bloodstone ครอบครองแต่เมื่อเขาตาย ต้องมีการหาผู้ครอบครองใหม่โดนการให้ผู้ล่าอสูรมาประชันกันใครรอดชีวิตก็สามารถครองครองมันแทนเค้า ซึ่งตอนนี้ Elsa Bloodstone เป็นผู้ครองครองคนปัจจุบันตามที่เรื่องราวได้บอกเอาไว้

  • พลังกำลังเหนือมนุษย์
  • ป้องกัยภันอันตราย
  • อายุยืนยาว
  • ทำให้อสูรร้ายเปิดเผยตัวตน
  • ทำให้พลังของอสูรลดลง
  • ทำให้อสูรมีความโหดร้ายมากขึ้นจากความโกรธของมัน

6. นักล่ากับ ดวงจันทร์ และ Bloodstone

รูปต่อมาเราจะเห็นเหมือนรูประยะของดวงจันทร์ กับเหล่านักล่าอสูร 5 คน ซึ่งน่าจะเป็นนักล่าอสูรยุคบุกเบิกที่มาจากหลายอารยธรรมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นคนในชุดนักรบ นักรบที่เหมือนจะมาจากตะวันออกกลาง คนที่อยู่ตรงกลางน่าจะเป็น Ulysses Bloodstone กำลังถืออาวุธที่เหมือนขวานใบพัดซึ่งเราจะเห็น Jovan และ Elsa ใช้อาวุธนี้ในเรื่องราวนี้ด้วย นักล่าที่ถืออาวุธที่เหมือนคันธนู และนักล่าที่เหมือนนักรบเอเชียโบราณ ซึ่งนักรบทั้ง 5 คนในรูปก็เหมือนกับจำนวนนักล่าอสูรที่มาในงานศพของ Ulysses Bloodstone เพื่มอีกคนคือ Elsa ลูกสาวของเขาเป็นคนที่ 6 นั่นเอง ที่ด้านซ้ายเหมือนเป็นเครื่องทำพิธีกรรมของการสังเวยแพะที่ด้านขวาเพื่อบวงสรวงต่อพิธีกรรมนี้ จากภาพนี้เหมือนเป็นการทำพิธีกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับ Bloodstone ล้อมรอบไปด้วยดวงจันทร์ระยะต่างๆ ข้างขึ้นข้างแรม สังเกตว่าเราจะไม่เห็นช่วงพระจันทร์เต็มดวง เนื่องจากพิธีกรรมอาจไม่เป็นผลในคือจันทร์วันเพ็ญหรือไม่นิยมทำพิธีกรรมในวันที่พระจันทร์เต็มดวงนั่นเอง

7. ภาพ Ulysses ที่สิ้นใจในคืนจันทร์เต็มดวง

จากนั้นเราจะเห็นภาพของ Ulysses ที่เสียชีวิตแล้ว ทางด้านซ้าย แปลงได้ว่า Strong and Free แข็งแรงและเป็นอิสระ และทางด้านขวาเขียนเป็นภาษาละตินที่แปลว่า Ulysses son of Septimus Bloodstone was slain on the last full moon of the year and at the end of bloodshed (Ulysses ลูกชายของ Septimus Bloodstone ถูกสังหารในคือวันเพ็ญสุดท้ายของปีในช่วงสุดท้ายของการนองเลือด) นั่นอาจบอกได้ว่า Ulysses มีพ่อชื่อ Septimus ที่เป็นผู้ล่าอสูรมาก่อนเขาและเขาถูกฆ่าในคืนพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งเจาอาจจะตายในคืนที่มีอสูรตนนึงกลายร่างในคือที่พระจันทร์เต็มดวงอย่าง WEREWOLF ต้นตระกูลของ Jack หรืออาจจะเป็น Jack เอง ก็เป็นได้ ซึ่งดวงจันทร์ในภาพที่ไม่ใช่ดวงจันทร์เต็มดวงก็เฟดภาพเป็นดวงจันทร์จริง พร้อมกับสถานที่ที่ Ulysses ได้สร้างเอาไว้

8. Jack Russell ชายผู้สังหารกว่าร้อยศพ

จากนั่นเราก็จะเห็น Jack ปรากฏตัวพร้อมกับถือสร้อยสัญลักษณ์นักล่าอสูรอยู่ในมือ เขาเพ้นท์หน้าตาดูเป็นที่สนใจที่เขาบอกว่าการเพ้นท์หน้านี้เป็นการให้เกรียติแก่บรรพบุรุษชองเขา ในคอมมิก Jack Russell หรือ Jacob Russoff เป็นแอนนี้ฮีโร่ที่บรรพบุรุษของเขาชื่อ Gregor Russoff ถูกสาปให้เป็นมนุษย์หมาป่า ซึ่งในศตวรรษที่ 18 บรรพบุรุษของเขาพยายามจะกำจัดพวกแดร็กคิลล่า แต่สุดท้ายโดยสาปให้เป็นมนุษย์หมาป่า ในช่วงศตวรรษที่ 20 คำสาปนี้ก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งโดยพ่อของเขา Gregory Russoff หลานของ Gregor Russoff ไปอ่านคาถาจาก Darkhold ทำให้เขาเป็นมนุษย์หมาป่า และขังตัวเองอยู่ในหอคอยช่วงจันทร์วันเพ็ญทุกคืน Gregory มีภรรยาชื่อ Laura Russoff และมีลูกด้วยกันสองคนชื่อ Jack และ Lissa คืนนึงที่ฝนตกและฟ้าก็ผ่ามาที่พอคอยทำให้ Gregory ในร่างหมาป่าออกมาข้างนอกจนถูกกลุ่มคนในเมืองใช้อาวุธสังหารเขา และคำสาปจึงตกมาที่ Jack แม่ของ Jack แต่งงานใหม่กับ Philip Russell ทำให้ Jack ชื่อเต็ม Jacob Russoff เปลี่ยนชื่อตามพ่อเลี้ยงเป็น Jack Russell

ตัวละคร Werewolf by Night ปรากฏครั้งแรกในคอมมิก Marvel Spotlight #2 ในปี 1972 ซึ่งคอมมิก Werewolf by Night สร้างขึ้นในปี 1972 ซึ่งเป็น Easter Eggs ของซีรีส์ Moon Knight ใน EP.2 ฉากที่เราเห็น รถบัสสีแดงก่อนที่ Mr.Knight นอนอยู่ข้างๆ ซึ่งบนหลังคารถบัสนี้มีอักษร เขียนว่า WBN 0032 นั่นเป็นการอ้างถึง Werewolf by Night #32 ที่เป็นการปรากฏตัวละคร Moon Knight เป็นครั้งแรก  ใน MCU ตัวละคร Werewolf by Night แสดงโดย Gael García Bernal นักแสดงชาวเม็กซิกัน นั่นเอง ในเรื่องราวบอกว่า Jack เป็นผู้ล่าอสูรมากกว่า 100 ศพ นั่นบ่งบอกถึงความสามารถของการเป็น Werewolf ของเขาได้เป็นอย่างดี

9. นักล่าคนอื่นๆ กับจำนวนศพของเขา

นอกจากนี้ในเรื่องราวก็ได้เผยถึงจำนวนการสังหารของนักล่าอีกหลายๆคนได้แก่

  • 26 ศพจาก Barasso ที่แสดงโดย Daniel J. Watts
  • 37 ศพจาก Azarel ที่แสดงโดย Eugenie Bondurant
  • 43 ศพจาก Liorn ที่แสดงโดย Leonardo Nam
  • 57 ศพจาก Jovan ที่แสดงโดย Kirk R. Thatcher
  • 100+ ศพจาก Jack ที่แสดงโดย Gael García Bernal

นอกจากนี้นักล่าอสูรทุกคนมีสัญลักษณ์การเป็นนักล่าที่เหมือนกันเพื่อบอกว่าให้รู้ทั้งหมดนี้คือนักล่าที่เป็นกลุ่มของ Ulysses Bloodstone ที่กระจายอยู่ทั่วโลกเป็นเครือข่ายเดียวกัน ยกเว้นแต่ Elsa ที่ไม่มีตราสัญลักษณ์นี้ เนื่องจากว่าเธอหายตัวไปตลอด 20 ปีที่ผ่านมา

10. ผนังทางเดินกับภาพ Gorr และภาษาละติน

ที่โถ่ทางเดินที่ Jack กำลังเดินเข้าไปยังห้องโถงทางเดินมีภาพวาดของอสูรและภาษาละติน มีภาพนึงทางซ้ายมือเป็นรูปของ Gorr ในคอมมิก ปรากฏที่ผนังของทางเดิน ซึ่งไม่น่ามีอะไรมากกว่าการเป็นแค่ Easter Eggs เพราะรูปลักษณ์ของ Gorr ใน Thor: Love and Thunder ของ MCU มีความแตกต่างออกไป ซึ่งนี่อาจจะเป็นตำนานที่ว่าไว้ว่า Gorr คืออสูรตนนึงที่ถูกฆ่า และไม่แน่อาจจะเป็นความเชื่อมโยงใหม่ในอนาคต ต้องติดตามในประเด็นนี้ต่อไป ส่วนภาษาละตินที่ปรากฏรอบๆในผนัง ก็แปลโดยรวมได้ถึงชัยชนะของการกำจัดอสูรร้าย จากนักล่า สงคราม ทางซ้าย ส่วนทางด้านขวาคือการที่มนุษย์โดยอสูรทำร้ายนั่นเอง

11. หัวอสูรทั้งหลายและศพ Ulysses

ในห้องโถงใหญ่ เราก็จะเห็นหัวอสูรมากมายที่ Ulysses ได้สังหาร ดูแล้วทำประดับโชว์ราวเป็นนิทรรศการผลงานการต่อสู้ของเขาก็ว่าได้ ซึ่งเราก็ได้เห็นมาแล้วในภาพว่าช่วงแรกก่อนเข้าเรื่องราว แต่ในห้องนี้เราเห็นหัวของอสูรของจริงมากมาย ซึ่งดูเหมือนว่า อสูรก๊อบลินที่เป็นแวมไพร์ เคยจะได้ต่อสู้กับ Jack มาแล้วด้วย แต่สุดท้ายก็โดน Ulysses สังหาร นอกจากนี้ที่หีบศพของ Ulysses ที่ตั้งอยู่มีปืนไรเฟิล และดาบไขว้กัน ที่เป็นอีกสองอาวุธที่ใช้ในการแข่งขันฆ่าอสูรในหนังเรื่องนี้ด้วย นอกจากนี้ที่รูปวาดของ Ulysses ข้างๆศพ เหมือนเราจะเห็นรูปของเขาที่ Bloodstone ฝังอยู่ตรงหน้าอกเหมือนในคอมมิกด้วย

12. เพลงที่ดังขึ้น

ฉากนึง เราจะได้ยินเพลง Never Had A Chance ของ Irving Berlin ในปี 1934 คลอไปพร้อมกับการปลุกใจเหล่านักล่าอสูรเพื่อมาแข่งขันเพื่อแย่งชิง Bloodstone นอกจากนี้เราก็ได้ยินเพลง Wishing (Will Make it So) ที่ร้องโดย Vera Lynn ที่ดังในปี 1939 ดังในช่วงที่ Elsa เดินเข้ามาในฉากที่เล่นแผ่นเสียงอยู่ และเพลงในช่วงท้ายที่เปลี่ยนโทนภาพขาวดำเป็นภาพสีนี้คือเพลงที่เราคุ้นเคย คือเพลง “Over The Rainbow” ที่เอาเวอร์ชันของ หนัง The Wizard of Oz มา ที่ร้องโดย Judy Garland นั่นเอง

13. สีแดงในภาพขาวดำ

ดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้จะแสดงสีแดงของ Bloodstone ให้ออกมาในเฉดของขาวดำ แต่สีแดงของเลือดไม่แสดงออกมาเนื่องจากผลของความรุนแรงและเรทของหนังที่ควบคุมได้ ซึ่งใน MCU เคยใช้ภาพโทนขาวดำในฉากของซีรีส์ WandaVision EP.1 ฉากโฆษณาเครื่องปิ้งขนมปังของ Stark Industries นั่นเอง

14. ไม่ใช่ TVA

ฉากต่างๆที่เราเห็นเหมือนทหารในชุดที่มีความคล้ายกับ Minutemen ของ TVA ในซีรีส์ Loki ซึ่งดูเหมือนว่าในหนังไม่ได้พูดถึงความเกี่ยวข้องกันในประเด็นนี้เลย นั่นจึงทำให้คิดว่าน่าจะไม่ใช่ TVA แต่เป็นเพียงทหารที่ Ulysses ได้มีไว้เพื่อควบคุมดินแดนของเขาในยุคปัจจุบัน

15. Joven

Jovan ที่แสดงโดย Kirk R. Thatcher ได้พบกับ Jack ครั้งแรกในฉากปรากฏตัวของเขา ซึ่งดูเหมือนว่า Jack จะมีทักษะการดมกลิ่นจากหมาป่าได้อย่างยอดเยี่ยมเพราะเขาบอกว่าเราได้กลิ่นเลือดของเขาจากมือติดอยู่เลย ซึ่ง Kirk R. Thatcher เคยปรากฏตัวเป็นนักแสดงประกอบมาแล้วใน MCU ในฉากของ Spider-Man: Homecoming ที่ชายถือวิทยุ ที่มี Zack Cheey ตัวละครที่ปรากฏใน Shang-Chi อีกด้วยร่วมในฉากเดียวกัน ซึ่งเขาก็ถูก Man-Thing สังหารในเมืองเขาวงกตในเรื่องราวนั่นเอง

16. Elsa Bloodstone

Elsa Bloodstone แสดงโดย Laura Donnelly ลอร่า ดอนเนลลี เธอคือตัวละครที่เป็นนักล่าสัตว์ประหลาดใน Marvel ยุคใหม่ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 กับคอมมิก Bloodstone #1 เดือนตุลาคม มีความเกี่ยวข้องกับ Blade ทีม Midnight Son เธอเป็น มันเป็นอะไรที่เดาทางไม่อยากว่าในอนาคตตัวละครนี้จะเชื่อมโยงหากันอย่างแน่นอน Elsa Bloodstone  ในคอมมิกเป็นลูกสาวของ Ulysses Bloodstone

17. การแข่งขันเพื่อแย่งชิง Bloodstone

กฏของการต่อสู้เพื่อแย่งชิง Bloodstone คือนักล่าทุกคนจะต้องเข้าไปสังหารอสูรที่ปล่อยไว้อยู่ในเมืองเขาวงกตนี้ โดยใช้อาวุธที่มีให้ในนั่นซึ่งเป็นอาวุธเก่าๆของ Ulysses ซึ่งใครสามารถสังหารมันได้ก็จะได้ครอบครอง Bloodstone เพราะ Bloodstone ถูกฝังอยู่ที่ตัวของอสูรนี้ โดยฉากในตัวอย่างที่เราเห็นเมืองนี้มีเงาเคลื่อนไหวอยู่นั่น ก็คืออสูรอย่าง Man-Thing ที่ชื่อว่า Ted ปรากฏในเรื่องราวนี้นั่นเอง เมื่อ Jack ได้เข้าไปยังเมืองเขาวงกตคนแรกเขาก็เดินไปพร้อมกันคนที่เป่า TUBA ไฟ ที่เป็นทั้งแสดงนำทางเดินซึ่งคนที่เป่านี้แสดงโดย David Silverman นักแสดงคนเดียวกับคนที่ไม่รับ Jen เข้าทำงานเป็นทนายในซีรีส์ She-Hulk

18. คำพูดของ Verusa

“บัดนี้ขอปฏิญาน เราจะสละโลหิตทุกหยดเพื่อการล่า เพื่อพลอยวิเศษและความเชื่อ ผู้ที่พลีดาบให้กับพวกเรา ขอล้างปฐพีให้สิ้นซากจากอสุรกาย โลกนี้ไม่อาจสงบถ้าปราศจากการหลั่งเลือด ฉะนั้นก็จงหลั่งเลือด ประโยคนี้บอกว่าวัฒนธรรมการล่าอสูรกายเกี่ยวข้องกับคมมีด และมีความเชื่อมโยงกับบุคคลในฉายา Blade นั่นเอง ซึ่งผู้กำกับเองก็มีความคิดจะเอาตัวละคร Blade เข้ามายังหนังเรื่องนี้แต่ก็ต้องถูกตกไป นั่นเอง

19. Man-Thing

ฉากที่ Jack กำลังแอบอยู่ตรงพุ่มไม้ทำให้เราได้เห็นการปรากฏตัวของ Man-Thing นั่นทำให้เราทราบว่า Jack มาที่แห่งนี้ไม่ได้มาเพื่อต้องการครอบครอง Bloodstone แต่มาเพื่อมาช่วย Man-Thing นั่นเอง นี่คือการแนะนำตัวละคร Man Thing ซึ่งปรากฏครั้งแรกเข้ามาใน Savage Tales #1 1971 ในคอมมิก Man-Thing คือ Dr. Theodore “Ted” Sallis นักวิทยาศาสตร์สาขาชีวะเคมี ผู้ที่พยายามทำการวิจัยเพื่อสร้าง super-soldier serum เลียนแบบของกัปตันอเมริกา เมื่อเขาคิดค้นสูตรเซรุ่มสำเร็จจะเอาไปให้ภรรยาดู แต่ปรากฏว่าภรรยาเป็นคนของเธอเป็นเอเจ้นที่ A.I.M. ส่งมา เขาได้ทำลายบันทึกการทดลองทั้งหมด ละพยายามหนีไปกับตัวอย่างเดียวของสูตรที่ทำสำเร็จ แต่ในที่สุดเมื่อหนีไม่พ้นเขาจึงฉีดยาเข้าตัวเองเพื่อไม่ให้สูตรนี้เข้ามือของผู้ร้าย ประจวบกับเขาโดนรถชนได้ตกลงไปในบึงน้ำ ไปอยู่ตรงที่เป็นจุดรวมตัวของมิติต่างๆ ที่เราเรียกว่า Nexus of All Realities รอยแยกของมิติต่างๆตรงนั้นทำให้เขาถูกกลายร่างเป็นตัวประหลาดแห่งหนองน้ำอย่างที่เราเห็นและส่งผลให้ความจำของเขาเมื่อตอนเป็นมุษย์ค่อยๆหายไป แต่บางครั้งความจำก็กลับมา เขาจึงไม่สามารถสื่อสารหรือพูดคุยกับใครได้ ร่างกายของเขาจะปล่อยกรดออกมา เมื่อสัมผัสได้ถึงความกลัวจากสิ่งมีชีวิตรอบข้าง รูปลักษณ์ของ Man-Thing นำเสนอออกมาได้ดีมาก เป็นมนุษย์หนองน้ำที่ผสมไปกับเถาวัลย์ พืชน้ำ มอส เชื่อรา เห็ด รากไม้ จอกแหนต่างๆ ภาษากายของ Man-Thing ดูเป็นมิตรกับคนที่มันรู้สึกไว้ใจ และรู้จักเขา ซึ่งเขาสามารถรับรู้ได้ต่อการสื่อสารทั้งหมดแพียงแต่เขาสื่อสารให้เราเขาใจไม่ได้นั่นเอง Man-Thing แสดงโดย Carey Jones และให้เสียงพากษ์โดย Jeffrey Ford สิ่งที่เราตั้งคำถามต่อคือ Man-Thing ถูกจับมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ใครเป็นคนนำเขามา

20. Man-Thing ใน Thor: Ragnarok

ในภาพยนตร์ Thor: Ragnarok เราก็มีโอกาสได้เห็นรูปปั้นหัวของ Man-Thing บนตึกสูงของ Grandmaster ที่ดาว Saakar คาดว่า Man-Thing อาจจะจากโลกมาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง จนมาถึงดาว Sakaar และถูก Grandmaster ขังไว้ และบังคับให้มาต่อสู้ในศึกประลองใน Grand Arena จนเขาสามารถเอาชนะศัตรูได้หลายคนและได้เป็นแชมป์ จนถึงขั้นมีรูปปั้นหน้าของเขามาติดโชว์เลยทีเดียว

21. ภรรยาของ Man-Thing ใน Iron Man 3

ในภาพยนตร์ Iron Man 3 ตัวละครหญิงที่ชื่อว่า Ellen Brandt ที่ปรากฏตัวมาเพื่อจะจับกุม Tony Stark จนกระทั่งเผยว่าเธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของ AIM และเป็นผู้ใช้ Extremis โดยในฉบับคอมมิก Ellen Brandt ภรรยาเก่าของ Ted Sallis โดยเธอหักหลังเขาและเผยว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกองค์กร AIM ที่แฝงตัวมาเพื่อแย่งชิงงานวิจัยเซรุ่ม SO-2 โดยเธอนี่แหละที่เป็นคนยิง Ted เข้าทีหลัง และหลังจากที่ Ted ได้กลายเป็น Man-Thing แล้ว เขากลับมาแก้แค้น Ellen โดยใช้น้ำกรดของเขาสร้างแผลเป็นไว้บนหน้าของเธอ และจากที่เห็นว่าในภาพยนตร์ Iron Man 3 เธอเองก็มีแผลเป็นบนหน้าเช่นเดียวกัน

22. Nexus of All Realities

ถึงแม้ว่าในเรื่องราวจะไม่ได้มีการพูดถึง Nexus of All Realities หรือจุดที่สามารถไปยังมิติอื่นๆ ได้แต่การกำเนิดของ Man-Thing มีความเกี่ยวข้องกับ Nexus of All Realities นี้ ใน MCU เคยมีการปรากฏ Nexus of All Realities มาแล้วในซีรีส์ Marvel What If…? ที่ The Watcher Uatu เอาไว้ส่องสำรวจดูโลกคู่ขนานต่างๆ และเขาก็ได้รวบรวมฮีโร่จากจักรวาลต่างๆมาเป็น Guardians of the Multiverse จากซีรีส์เรื่องนั้นนั่นเอง

23. ห้องเก็บศพ

เราจะเห็นชื่อบุคคลต่างๆ ที่เป็นตระกูลของ Elsa มากมาย ซึ่งชื่อส่วนใหญ่ก็เป็นชื่อของทีมงานของหนังเรื่องนี้ นั่นเอง ฉากที่ Jack ได้พูดถึงครอบครัวต่างๆที่มีลัษณะเหมือนกันเป็นการสะท้อนว่า เมื่อครอบครัวมองเรา เราทำตัวไม่เหมือนกับที่พวกเขาทำ หรือมีความแตกต่างจากวัฒนธรรมของครัว นั่นทำให้เป็นการสะท้อนว่าทำไม Verusa ถึงบอกว่า Elsa คือคนที่ทำให้พ่อของคนเองผิดหวัง ผ่าเหล่าผ่ากอแบบนี้

24. เผยตัวตน

หลังจากที่ Jack ทำให้ Man-Thing หนีออกไปข้างนอกได้ และ Elsa สามารถเอา Bloodstone ออกจากหลัง Man-Thing ทำให้ Jack จำเข้าไปหยิบ Bloodstone แต่ Bloodstone ทำให้เขากระเด็นตัวออกมา นั่นทำให้เราทราบว่า Jack คืออสูรตนนึงที่ Bloodstone สามารถกำจัดเขาได้ จากนั่น Verusa ก็จับ Jack และ Elsa เข้าไปอยู่ในกรงเดียวกัน และเธอก็ให้ Bloodstone ปล่อยพลังเพื่อทำให้ Jeck เผยตัวตนของเขาออกมา โดยฉากที่มีการเฉยตัวตนของ Jack นี้ไม่ได้มีการใช้ VFX ใดๆเลย เป็นการเล่นแสงกับเงาของภาพ และใช้หลักการถ่ายแบบ Long-Shot ดูแล้วสมจริงมากๆ ที่เราเห็นเงาของ Jack ค่อยๆกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่านั่นเอง

25. สังหารหมู่

จากนั่นดูเหมือนว่าเรื่องราวทำให้ Jack เปิดเผยตัว หนีออกมากรงได้ ต่างคนต่างปะทะกัน Elsa ให้ใช้อาวุธต่อสู้กับนักล่าที่เหลือได้อย่างเท่มากๆ เมื่อในห้องนี้เหลือแต่มนุษย์หมาป่ากับ Elsa ก็ทำให้ Jack พยายามจะเข้ามาทำร้ายเธอแต่ด้วยกลิ่วตัวของเธอที่ Jack ได้ดมไว้ก่อนหน้าที่เขาจะเป็นมนุษย์หมาป่า และจากความสัมพันธ์ของทั่งคู่ทำให้มนุษย์หมาป่า Jack สงบอารมณ์ลงและ หนีออกไป ส่วน Verusa เข้ามาจะยิง Elsa ทันใดนั้น Man-Thing ก็เข้ามาสังหารเธอจากกรดที่ปล่อยออกมาในตัวเขา และเขวี้ยงร่างของเธอไปที่ศพของ Ulysses จนหัวศพกระเด็นออกมา

26. เมื่อโลกมีสีสัน

หลังจากที่เรื่องราวสงบลง Elsa ได้ครอบครอง Bloodstone มีสันในโลกเริ่มออกมาจากตัวเธอ ทำให้เราเห็นชุดของเธอมีสีแดง และสิ่งต่างๆรอบตัวเริ่มมีสีสัน ดูแล้วก็คล้ายกับฉากที่ Wanda ใช้ Chaos Magic เปลี่ยน Westview ให้เป็นขาวดำ และเปลี่ยนเป็นสีได้ ดูเหมือนว่า Jack และ Man-Thing จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน และเรื่องราวก็จบลง ซึ่งตอนจบทำให้นึกถึงฉากตอนจบของ The Wizard of Oz เรื่องราวทั้งหมดนี้เอาจจะได้เห็น Elsa Bloodstone , Jack หรือ Man Thing ในหนังเรื่อง Blade หรือ ซีรีส์ของ Agatha Coven of Chaos หรือเรื่องราวอื่นๆ ในอนาคตก็เป็นได้

ผจญภัยกับเทพเจ้า ในซีรีส์แอ็กชั่น-คอมเมดี้ American Born Chinese 

อัญมณีเลือด Bloodgem หรือ Bloodstone อีกหนึ่งไอเทมที่มีความสำคัญต่อ MCU

เจาะตัวอย่าง Werewolf by Night  หนังแนวสยองขวัญของ MCU กับ 15 ประเด็นสำคัญ ความเชื่อมโยง Easter Eggs 

คุยกันหลังดูซีรีส์ SHE-HULK ตอนที่ 6 (EP.6) | แค่เจนก็เอาอยู่? (สปอยล์)

รีวิว+คุยกันหลังดู+รีแคป House of the Dragon EP.4 | อยากเก็บธอไว้ทั้งสองคน

รีวิว+คุยกันหลังดู+รีแคป House of the Dragon EP.3 | เมื่อคู่ครองก็สำคัญ?

รีวิว+คุยกันหลังดู+รีแคป House of the Dragon EP.2 | ความเข้มข้นกำลังจะเริ่มขึ้น

ชวนส่อง 5 เรื่องน่ารู้ของฮีโร่ผู้ตีแผ่ชีวิตสาวออฟฟิศแบบเรียลๆ ใน Marvel Studios’ She-Hulk: Attorney at Law