หลังจากที่หนังตอนพิเศษอย่าง Werewolf By Night ได้มีการนำเสนอเรื่องราวของ Bloodgem หรือ Bloodstone ที่เป็นที่มาของตระกูล Bloodstone ในเรื่องราวของ MCU และในคอมมิก
ย้อนไปอีกก่อนกำเนิดจักรวาล มีสิ่งมีชีวิตนอกมิติก่อนเกิดจักรวาล ที่ถูกครอบงำด้วยความทุกข์ทรมาร และความวุ่นวาย พวกมันสร้าง Bloodgem ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวนำพาในการส่งพลังงานในท่อส่งเวทย์มนตร์ที่เรียกว่า Hellfire Helix เฮลไฟร์เฮลิกส์ ที่ทำให้พลังงานที่เป็นเวทย์มนตร์และพลังงานอื่นๆสามารถผ่านไปได้ ซึ่งสายธารพลังงานเหล่านี้ ไหลผ่านจักรวาลผูกมัดทุกอย่างไว้ด้วยกัน เหมือนเลือดไหลผ่าน ร่างกาย ซึ่งถ้าใครมี Hellfire Helix ก็สามารถใช้พลังงานเหล่านี้ได้ โดยพลังงานเหล่านี้สร้างจิตสำนึกของตนเองได้ ที่เรียกว่า Exo-Mind จากนั้น Exo-Mind ได้สร้าง Ulluxy’l Kwan Tae Syn ให้เป็นผู้พิทักษ์ Bloodgem โดยมีทั้งหมด 5 คน เพื่อเป็นตัวแทนและทำพิธีกรรมต่างๆ ในการนำพามันข้ามมิติได้ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ปรากฏในคอมมิก Rampaging Hulk #4 (May, 1977) การที่เหล่า Elders สร้าง Bloodgem ก็เพื่อพิชิตมิติอื่น ๆ โดยตั้งใจที่จะเปลี่ยนอาณาจักรหรือมิติเหล่านั้นให้อยู่ในรูปแบบที่คล้ายกับมิติของพวกเขาเอง ในช่วงที่การเกิด Big Bang Bloodgem ก็พ้นจากการระเบิดของ Big Bang
จากนั้น Bloodgem ก็ถูกค้นพบโดยชาว Kree ที่ดาว Kree-Lar ครีล่า เมืองหลวงของอาณาจักรของ Kree ซึ่งมีรูปร่างเป็นศิลามหึมาที่มีพลังมหาศาล โดยนักวิทยาศาสตร์ชาว Kree ได้แบ่งครึ่งมันและเรียกมันว่า Alpha Stones และ Omega Stones แต่การแยกมันออกจากกันส่งผลให้คนตายนับพัน นั่นทำให้ผู้ที่มีเทคโนโลยีเหนือกว่าสนใจหินพวกนี้ เมื่อพวกเขามาที่ Kree-Lar ทำให้พวกเขานำหินสองก้อนนี้รวมเข้าไปยัง Lifestone Tree ซึ่ง Lifestone Tree ที่ตั้งอยู่ที่ Kree-Lar และค้นพบว่าหินสองก้อนนี้มีความเกี่ยวข้องกับ Lifestone Tree สร้างโดย Chosen Eight of Fate หรือผู้ถูกเลือกทั้ง 8 แห่งโชคชะตา ซึ่งมีสมาชิกเป็นเผ่าพันธ์มนุษย์ต่างดาว 8 คนได้แก่ Kree, the Skrulls, the Shi’ar, and the Badoon รวม 8 คน (ครี ตระกูลสครูล ชิอาร์ และบาดูน ) ทั้ง 8 คนเป็นผู้ปกป้องกาเล็กซี่ และถูกขนานนามว่า Guardians of the Galaxy อีกด้วย จากนั้น 200 ปีต่อมา Lifestone Tree ถูกโจมตี เกิดการระเบิด ทำให้เกิดรอยแยกในอวกาศซึ่งผลัก Lifestones ไปยังมุมไกลของกาแลคซี ทำให้เศษของ Lifestone ตกมายังพื้นโลกรวมถึงส่วนหนึ่งของ Bloodstone ด้วยนั่นเอง
ในยุคช่วง ในช่วง 8250 ปี ก่อนคริสตกาล มีอุกาบาตตกสู่พื้นโลก ก็คือช่วง Lifestone ตกมายังพื้นโลก จากนั้นเมื่อ Bloodgem ตกอยู่ที่โลก Exo-Mind ใน Bloodgem เรียนรู้วิถีของมนุษย์สังเกตวิวัฒนาการของมนุษยชาติไปเรื่อยๆ วันนึง มีชายคนนึงเกิดมาจากชนเผ่าเร่ร่อน ยึดครองวานาไฮม์ตอนเหนือ ซึ่งต่อมาถูกเรียกว่าสแกนดิเนเวีย ได้เห็นอุกาบาทตกลงมายังโลก เขามาเห็นเงาของ Ulluxy’l ผู้ดูแล Bloodgem ที่ Exo-Mind ได้สร้างขึ้น นำทางให้ขายคนนี้เดินเข้าไปในถ้ำ พาไปที่แท่นบูชา พลังของ Bloodgem ได้เสริมพลังให้กับชายคนนั่นมีพลังเหนือมนุษย์ ซึ่งเขาก็ได้ไปชวนเพื่อมาที่ถ้ำแห่งนี้เพื่อให้ได้พลังเหนือมนุษย์ในแบบเดียวกัน แต่คราวนี้ปรากฏว่า Exo-Mind กลับดูดซับพลังชีวิตของชายคนนี้และคนอื่นๆ ทั้งเผ่า นั่นทำให้เขาโกรธ จนทุกคนรวมตัวกันโจมตี Bloodgem จนมันระเบิดออกเป็นหลายชิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นฝังอยู่ในหน้าอกของเขา แน่นอนชายคนนี้ชื่อว่า Ulysses การที่ Bloodgem ฝังอยู่ที่หน้าอกของเขาทำให้เขาสามารถมีอายุได้เป็น 10,000 ปี เลยทีเดียว
พลังของ Bloodstone
- ความแข็งแกร่ง ความทนทาน ความเร็ว
- ปฏิกิริยาตอบสนอง พลังจิต ให้กับคนที่ครอบครอง
- ความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ ความแข็งแกร่ง
- ความเป็นอมตะและปัจจัยการฟื้นคืนชีพ
- ลบสิ่งลวงตาได้
- ป้องกันการเป็นแวมพร์เมื่อถูกกัดได้
- ตรวจสอบว่ามีสิ่งชั่วร้ายอยู่ที่ใดหรือกำลังสิงห์ตัวอยู่ที่ใคร
- เสริมความสามารถเวทย์มนตร์ภายในบุคคลบางคน
ปัจจุบัน Ulysses Bloodstone ตายแล้วและ Bloodstone ก็ถูกลืบทอดโดย Elsa Bloodstone และ Cullen Bloodstone
ใน MCU Bloodstone เคยถูก Ulysses Bloodstone ครอบครองแต่เมื่อเขาตาย ต้องมีการหาผู้ครอบครองใหม่โดนการให้ผู้ล่าอสูรมาประชันกันใครรอดชีวิตก็สามารถครองครองมันแทนเค้า ซึ่งตอนนี้ Elsa Bloodstone เป็นผู้ครองครองคนปัจจุบันตามที่เรื่องราวได้บอกเอาไว้
- พลังกำลังเหนือมนุษย์
- ป้องกัยภันอันตราย
- อายุยืนยาว
- ทำให้อสูรร้ายเปิดเผยตัวตน
- ทำให้พลังของอสูรลดลง
- ทำให้อสูรมีความโหดร้ายมากขึ้นจากความโกรธของมัน
