ในตอนจบชองซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วย Easter Eggs และประเด็นสำคัญมากมายที่อ้างอิงมาจาก MCU รวมถึงคอมมิกของมาร์เวลเรื่องอื่นๆ ที่เชื่อมโยงอย่างชัดเจนก็น่าจะเป็นเรื่องราวของ X-Men กับยีนส์กลายพันธ์ที่อยู่ในตัวกมลา และ หนังเรื่องต่อไปอย่าง The Marvels ที่จะฉายให้เราได้ชมในปี 2023 หลังจากจบ EP.6 ที่มีชื่อตอนว่า No Normal หรือไม่ปกติ ถือเป็นการผูกเรื่องราวให้กมลาออกไปผจญภัยนอกบ้านแล้ว ในฐานะการเป็นฮีโร่เต็มตัว สิ่งที่เกิดขึ้นในซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราได้รู้จักองค์กร D.O.D.C. มากชึ้นที่เป็นผู้บังคับใช้ ข้อตกลง Sokovia ในยุคหลัง Avengers: Endgame ทำให้ต้องออกตามไส่ล่าพวกมีพลังวิเศษนี้ แต่โชคดีที่กมลามีกลุ่ม Red Daggers ที่สามารถป้องกัน Kamran ให้พ้นจาก D.O.D.C. นี้ได้ซึ่งเรื่องราวของ D.O.D.C. ยังถูกเล่าถึงต่อไปในซีรีส์ She-Hulk ที่จะฉายทางช่อง Disney+ Hotstar วันที่ 17 สิงหาคมนี้แล้วครับ การเปลี่ยนแปลงเรื่องราวของกมลาที่ต่างจากคอมมิกย่อมทำให้เราเกิดคาดเดาอะไรต่อไปใน MCU แต่ใน EP.6 นี้ยังมี Easter Eggs และประเด็นสำคัญมากมาย ซึ่งจะมีเรื่องราวอะไรบ้างที่อัครจะมาพูดถึงบ้างติดตามครับ
1. สีพลังของ Kamran และทัศนคติของเขา
ใน EP.6 Bruno ได้พา Kamran หลบนี้หลังจากที่โดน D.O.D.C. ระเบิดร้าน Circle Q. ซึ่งสีของพลังเหมือน Kamran ในคอมมิก แต่รูปแบบพลังเหมือนของ Kamala ในซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากนี้เรายังได้เห็นมิติของตัวละครของ Kamran ที่ถูกการไม่ยอมรับจากสังคมเพราะพวกเขาเป็น Clan destine เพราะนั่นอาจบอกว่า Kamran ถูกเลี้ยงมาอย่างหลบๆซ่อนๆ และมองว่าสังคมไม่ยอมรับเขา
2. รูปปั้นเทพีเสรีภาพ
ถือว่าเทพีเสรีภาพเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพและโอกาส สำหรับเรื่องราวนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับครอบครัวของกมลาที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่อเมริกา แน่นอนเทพีเสรีภาพ เคยมีการปรับปรุงและสร้างใหม่หลังจากที่พังลงจากเหตุการณ์ของ Spider-Man: No Way Home นั่นเอง
3. พลังไม่มีจำกัดหรือต้องชาร์จ
เมื่อ Tyesha แฟนของ Aamir ถาม Kamala ว่า พลังไม่มีจำกัดหรือต้องชาร์จ เมื่อพูดถึงการชาร์จพลัง นั่นทำให้นึกถึง Hero ของ DC คนนึงที่หลายคนบอกว่าพลังของ Kamala เหมือน Green Lantern แน่นอนเขามีแหวนพลัง พลังงานที่มีอยู่ในแหวน ซึ่งถ้าใช้มากๆก็จะลดลงไป ถ้าพลังหมดก็จะกลายเป็นแค่แหวนธรรมดาเท่านั้น ต้องชาร์จไฟกับตะเกียงพลัง (แบตเตอร์รี่) ก่อนถึงจะใช้งานได้อีกครั้ง และการชาร์จแต่ละครั้งจะอยู่ได้นานสุดเพียง 24 ชั่วโมง
4. การยอมรับ
ย้อนไปที่ฉากใน EP.1 ที่หน้าเตาผิงเหมือนกับตอนนี้ แม่ของ Kamala ยังไม่ยอมรับการกระทำของเธอทุกเรื่อง แต่ ณ ตอนนี้การยอมรับและการไว้ใจได้เกิดขึ้นแล้ว ถือว่าเป็นการที่เราเห็นทัศนคติของตัวละครที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
5. Logo Ms. Marvel เล่าเรื่องราวของตอนนี้
- Logo ที่เทปสีเขียวของตำรวจ และบลูปริ้นของ Logo
- Logo ในภาพวาดการ์ตูนของเหตุการณ์ใน Endgame ที่อ้างถึง Cap. Marvel
- Logo ที่อยู่บนเสื้อเขียนว่า Est.2014 Jersey ที่อ้างถึงปีที่ตีพิมพ์คอมมิก Ms. Marvel ในปี 2014
- Logo ที่อยู่ในฉากหลังของร้าน Circle Q. ที่ถูกโดรนระเบิด
- Logo ที่ปรากฏอยู่ที่ข้างรถบัสโรงเรียนอ้างถึงฉากที่ Kamran ปะทะกับ D.O.D.C. ที่หน้าโรงเรียน
- Logo ที่เฝิอกของ Bruno ที่ได้รับบาดเจ็บใน EP.3
- Logo ที่ข้างรถตำรวจ
- Logo ที่ป้ายในสถานีรถไฟฟ้า
- Logo ที่กระดานดำ สื่อถึงฉากที่ Kamala วางแผนกับเพื่อนๆ
- Logo ที่ภาพวาดกราฟิตี้ในกำแพงใน EP.1 สื่อถึงการปรากฏตัวของ Cap. Marvel
- Logo ที่มีแสงพลังของกมลา ที่บ่งบอกว่าเธอพร้อมแล้วที่จะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่เต็มตัว
6. กล่อง Milk Toffees
กล่องที่แม่ของ Kamala ใส่ชุดใหม่มาให้เธอนั้นคือกล่องทอฟฟี่ที่คุณยาย Sana กินทิ้งไว้จนมีกล่องทั่วบ้านในฉากที่แม่ Kamala เก็บกวาดให้ใน EP.4 รวมถึงกล่องทอฟฟี่ยี่ห้อนี้ก็เป็นกล่องที่คุณยาย Sana ส่งกำไลมาให้ Kamala ใน EP.1 ด้วย นั่นบ่งบอกว่าชุดฮีโร่ของ Kamala ชุดมาจาก Karachi อย่างแน่นอน นอกจากที่ Nakia บอกว่าชุดมาจากปากี
7. ชุดฮีโร่ของ Kamala
ชุดฮีโร่ของ Kamala นั่นได้รับแรงบัลดาลใจมาจาก ชุดพื้นเมืองของชาวเอเชียใต้ที่เรียกว่า Shalwar kameez ที่เรามักจะเห็นคนในแถบนั้นสวมใส่กันนั่นเอง
8. ความมั่นใจหน้ากระจก
ฉากที่ Kamala ยืนอยู่หน้ากระจกพร้อมกับชุด Ms. Marvel อย่างมั่นใจ สะท้อนให้เราเห็นฉากแบบเดียวกันใน EP.1 ที่เธอยังไม่ได้ค้นพบตัวเองเท่าไรในตอนนั้น ณ. ตอนนี้ Kamala พร้อมแล้วที่เธอจะเป็น Ms. Marvel อย่างเต็มรูปแบบบนความรับผิดชอบที่เธอมี
9. เมื่อ Mutants หรือมนุษย์กลายพันธุ์กลายเป็นส่วนหนึ่งของ MCU ในซีรีส์เรื่องนี้
หลายคนคงตื่นเต้นไม่น้อยกับฉากที่ Bruno ได้บอกว่า Kamala มียีนส์กลายพันธุ์ในร่างกายที่ไม่เหมือนกับคนในครอบครัวของเธอ นั้นคือการที่ MCU โยงเรื่องราวของมนุษย์กลายพันธุ์หรือ X-Men เข้ามาในจักรวาลอย่างเป็นทางการ นี่คือความเซอร์ไพร์สแรก สิ่งที่ยืนยันว่าเรื่องราวนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของ X-Men เพราะเพลงประกอบในฉากนี้เป็นเพลง X-Men ’97 Theme ของ The Animated Series นั้นทำให้เรายืนยันได้ว่า Kamala Khan เป็นมนุษย์กลายพันธุ์คนแรกที่ MCU ได้นำเสนอให้เราได้รู้จัก ซึ่งก็อาจจะมียีนส์กลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ในจักรวาลนี้ด้วย เราต้องมาดูว่า MCU จะเล่าเรื่องราวของ Mutants อย่างไรต่อไป
ใน The Marvel Studios Visual Dictionary เคยบอกเป็นนัยว่าตัวละครอย่าง Scarlet Witch และ Captain Marvel อาจกลายพันธุ์ แต่ ณ ตอนนั้นแค่อาจ และยังไม่กล้าที่จะเล่าว่าพวกเค้ากลายพันธุ์ได้เต็มปากเนื่องจากลิขสิทธิ์ตัวละครของ X-Men ในตอนนั้นอยู่กับทาง Fox Studios แต่ตอนนี้เมื่อ Fox อยู่ภายใต้ของ Disney นั่นจึงทำให้ MCU ดึงเอาเรื่องราวของ Mutants เข้ามาในจักรวาลได้เต็มปากสักที Kamala Khan จะกลับมาอีกครั้งในหนังเรื่อง The Marvels ที่เราจะได้เห็น Captain Marvel และ Monica Rambeau ที่เธอได้รับพลังจากการที่ได้เข้าไปใน Hex ของ Wanda ในซีรีส์ WandaVision ทั้งสามคนนี้อาจมียีนส์กลายพันธุ์ได้ทั้งหมด ซึ่งการกลายพันธุ์อาจถูกเรียกจากคำว่า “Marvels” ที่แฝงความหมายอะไรที่มากกว่าชื่อเรื่องของหนังเรื่อง The Marvels นี้ก็เป็นได้
10. องค์กร D.O.D.C. อาจเป็นศัตรูกับพวกมนุษย์ที่มีพลังวิเศษ
ถ้าสังเกตดีๆเราจะเห็นพล็อตเรื่องสไตล์ X-Men เล่าผ่านเรื่องราวในซีรีส์ Ms. Marvel เส้นเรื่องอาจทำให้เรามองว่า D.O.D.C. เป็นตัวร้ายใน MCU ทำให้คนดูต่างไม่ชอบองค์กรนี้ การควบคุมความเสียหายที่ดูเหมือนจะสร้างความเสียหายซะเอง องค์กรนี้มีหน้าที่รักษาข้อตกลงตามสนธิสัญญา Sokovia ที่ร่างขึ้นโดยองค์การสหประชาชาติ พูดถึงมาตั้งแต่ Captain America: Civil War การปรากฏตัวของยอดมนุษย์คนใหม่ย่อมทำให้ D.O.D.C. ออกมาควบคุม ประเด็นที่อ้างถึงชัดเจนก็คือเจ้าหน้าที่ควบคุมความเสียหายอย่าง Sadie Deever บ่นว่าการทำลาย Circle Q คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคนผิดได้รับพลัง ทำไม D.O.D.C. ถึงมองว่า Kamran และ Kamala คือคนผิด เราต้องมาดูทัศนคติต่อไป หรือว่าอาจจะเป็นแค่ความไม่ชอบส่วนตัวของ Sadie Deever เอง เพราะทำอะไรเกิดคำสั่งของ Agent P. Cleary โดยในช่วงท้ายเธอก็โดนให้ออกจากหน่วยงานนี้แล้ว ในคอมมิกการกลายพันธุ์เกี่ยวข้องกับยีน X ซึ่งถูกกระตุ้นในช่วงวัยรุ่น นั่นก็หมายความว่าเป็นเรื่องปกติที่วัยรุ่นจะได้รับพลังพิเศษ ทัศนคติของการควบคุมความเสียหายทำให้พวกเขาเป็นศัตรูเมื่อกลายพันธุ์กลายเป็นเมนหลักตามเรื่องราวที่เราได้เข้าใจนั่นเอง และเรื่องราวของ D.O.D.C. อาจจะนำพาเราไปยังซีรีส์ Armor Wars ที่เล่าถึงการมีคนนำเอาเทคโนโลยีของ Stark ไปใช้ในทางที่ผิด และนั่นดูเหมือนว่ารัฐบาลสหัฐที่ควบคุม D.O.D.C. ตอนนี้กำลังเข้ามาควบคุมและทำเช่นนั้น ซึ่งจุดประสงค์ของ Stark เองเขาไม่ต้องการให้เทคโนโลยีของเขาอยู่ภายใต้การควมคุมของรัฐบาล
11. พระเจ้าถูกเสมอ
ฉากนึงที่ Sadie Deever เข้สมายังสุเหร่าเพื่อมาตามหา Bruno และ Kamran เธอก็ได้พูดคุยกับอิหม่าม Sheikh Abdullah ซึ่งคราวนี้ Sheikh ก็มีประโยคเด็ดอีกแล้วที่ว่า “if god is on my side as long as i am on his side . For god is always right” ไม่ห่วงด้วยด้วยซ้ำว่าพระเจ้าอยู่ข้างผมไหม ตราบที่ผมอยู่ข้างพระเจ้า เพราะพระเจ้าถูกเสมอ นั่นเป็นคำพูดจาก Abraham Lincoln ทนายความและรัฐบุรุษชาวอเมริกา ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 16 แห่งสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 1861 โดย Lincoln ได้พูดเอาไว้ว่า “Sir, my concern is not whether God is on our side; my greatest concern is to be on God’s side, for God is always right.” ถือเป็นคำคมที่โดยใจอีกคำนึงในซีรีส์เรื่องนี้เลยทีเดียว
12. หมวก Haram และ Halal การห้ามและการอนุญาต
หลังจากที่อิหม่าม Sheikh Abdullah ได้ให้หมวกแก๊ปที่มีคำว่า Haram และ Halal กับ Bruno และ Kamran ใส่เพื่อพรางตัวและหลบหนีจากองค์กร D.O.D.C. สิ่งที่น่าสนใจก็คือคำว่า Haram และ Halal ซึ่ง Haram (ฮะรอม) หมายถึงสิ่งของหรือการกระทำใดๆ ซึ่งได้รับการห้ามตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม ซึ่งรวมกับสิ่งที่น่าสงสัย เคลือบแคลงใจ ที่ชาวมุสลิมควรหลีกเลี่ยง ส่วน Halal (ฮาลาล) หมายถึง สิ่งของหรือการกระทำใดๆที่ได้รับการอนุญาตตามบัญญัติของศาสนาอิสลาม
13. แผนที่ของ The Red Daggers เปลี่ยนจุดสำรวจ
ฉากที่ตอน Kamala โทรหา Kareem ให้พา Kamran นั่งเรือมา กล่องโฟกัสอยู่ตรงแผนที่ของ Red Daggers ที่เหมือนมีการเปลี่ยนตำแหน่งที่ Waleed ได้เคยสำรวจใน EP.4 ถึงเรื่องราวของมิติ Noor การเปลี่ยนจุดโฟกัสของแผนที่อาจมีความหมายอะไรที่สำคัญต่อไปในการติดตามพลัง Noor ทั่วโลก ซึ่ง Noor อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับการกลายพันธุ์ของมนุษย์คนอื่นๆใน MCU หรือไม่ เราต้องมาติดตามต่อไปครับ
14. การวางแผนของ Kamala
ฉากการวางแผนของ Kamala กับเพื่อนๆที่โรงเรียนเพื่อต่อต้าน D.O.D.C. ให้อารมณ์เหมือนหนังเรื่อง The A-Team ขณะที่เด็กๆ ใช้ประโยชน์จากทุกสิ่งที่พวกเขามีเพื่อสร้างกับดักที่สร้างสรรค์ บางทีมันอาจจะดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไรแต่ถือว่าเป็นสีสันให้กับเรื่องราวนี้
15. คนบนโลก Social
ฉากนึงที่ Zoe ได้ใช้ Social ให้ทุกคนรับรู้ว่าเกิดอะไรกับเหตุการณ์ในครั้งนี้และโดน D.O.D.C. กระทำอย่างไร มีผู้ใช้งานคนนึงพูดถึง Avengers และอยากให้ออกมาช่วยเด็กๆ ว่า #avengers go to Coles High! Zo need you! ต่อมาก็มีอีกคน ON I-78! WE HELPING OUR GURL #helpzo ซึ่ง ON I-78 เป็นชื่อทางหลวงที่วิ่งไปยัง New Jersey และอีกคนบอกว่า On our way Zo! #popcornpopcorn #helpzo ซึ่ง Hashtag #popcornpopcorn เป็นการอ้างถึงฉากที่ Zoe ได้ถูก Agent P. Cleary สัมภาษณ์ใน EP.2 และเขาก็เป็นแฟนคลับเธอ เขาพูดประโยคว่า “pop corn pop corn” ในฉากนั้นนั่นเอง
16. ปืนใหญ่ Sonic ของ Damage Control
เราเห็น D.O.D.C. นำอาวุธโซนิคที่ใช้จัดการ Kamran และ Kamala ที่เหมือนกับอาวุธของนายพล Ross ใน The Incredible Hulk ที่ใช้ในการต่อต้าน Hulk นั่นเอง แต่ D.O.D.C. พัฒนาอาวุธนี้ให้ดูคล่องตัวมากขึ้น ดูเหมือนว่า D.O.D.C. จะทำเกินกว่าเหตุที่ใช้ ปืนใหญ่ Sonic กับเด็กที่เพิ่งจะมีพลังถึงแม้ว่ามันจะมีพลังในการทำลายล้างไม่หนักเท่าไรก็ตาม
17. เงาของ Spider-Man
ดูเหมือนว่าฉากตอนเปิดตัว Ms. Marvel หลังจากได้ชุดใหม่ทำให้เรานึกถึงโทนของ Spider-Man จากเด็กธรรมดาได้รับพลัง เรียนรู้ และกลายเป็นฮีโร่ที่รักสำหรับทุกคนในเมือง อารมณ์เหมือนดู Spider-Man ของ Tobey Maguire ที่คนในเมืองต่างก็รักเค้า ซึ่ง Ms. Marvel อาจจะได้รับแรงบัลดาลใจหนึ่งจาก Spider-Man ก็เป็นได้
18. Master Paul 616
ฉากตอนท้ายที่มีการนำเสนอถึงคนในโลก Socials ที่ต่างพูดถึงการเป็นฮีโร่ของ Kamala ซึ่งมีผู้ใช้งานคนนึงชื่อว่า @MasterPaul616 ซึ่งมีตัวเลขของการอ้างถึงจักรวาลหลักของ MCU คือ Earth-616 ตามที่ คริสทีนใน Earth-838 ได้พูดเอาไว้ ในหนัง Doctor Stranger 2
19. The Real GWW
ในเรื่องราวของ Ms. Marvel มีตัวละครของที่แสดงเป็นครูชื่อว่า Gabe โดยเขาใช้ชื่อย่อว่า G W W บนโต๊ะทำงานของเขาแต่ใน EP.6 เราได้เห็นการปรากฏตัวของ G. Willow Wilson ตัวจริงในฉากการนำเสนอถึงคนในโลก Socials ที่ต่างพูดถึงการเป็นฮีโร่ของ Kamala โดยเธอพูดว่า “นางดูคุ้นๆมากนะ” และนี่คือตัวจริงของ G. Willow Wilson นักเขียนต้นฉบับของคอมมิก Ms. Marvel ในปี 2014 และผู้ร่วมกำหนดเรื่องราวพื้นฐานของตัวละคร ให้กับ Ms. Marvel ถ้าไม่มีเธอคนนี้ก็อาจจะไม่มีตัวละคร Ms. Marvel ให้เราได้เห็นบนโลกนี้แล้วนั่นเอง
20. หนุ่มน้อยขโมยรองเท้าและไอศกรีมพิซซ่า
เราได้เห็นหนุ่มน้อยชื่อ Hameed ที่กมลาได้ช่วยใน EP.2 ที่เขาเป็นคนขโมยรองเท้าของ Nakia ที่สุเหร่าที่พูดถึงอาหารที่เขาชอบตอนที่กมลาไปช่วยเขานั่นก็คือ ไอศกรีมพิซซ่า ซึ่งเขาใช้ชื่อในโลกโซเชียลว่า HammyDizzle แน่นอนหนุ่มน้อยคนนี้แสดงโดย Ishan Gandhi และอิหม่าม Sheikh Abdullah ก็บอกว่าจะแจกพิซซ่าไอติมในวันศุกร์นี้เพื่อเป็นการฉลองการมีฮีโร่อย่างกมลาเกิดขึ้นในเมืองนี้
21. ชื่อของ Ms. Marvel
ที่มาของชื่อ Ms. Marvel มาจากพ่อของเธอ Yusuf ได้ตั้งให้ โดยเอามาจากคำว่า Kamala ซึ่งภาษาอาหรับ Kamal แปลว่าสมบูรณ์แบบ และในภาษาอูรดูก็แปลว่าอัศจรรย์ ซึ่งมันคือคำว่า Marvel ในภาษาอังกฤษ ดังนั้น Kamala จึงมีความหมายเท่ากับคำว่า Marvel ทำให้พ่อของเธอตั้งชื่อฮีโร่ให้เธอว่า Ms. Marvel นั่นเอง
22. ฉากนั่งบนเสาไฟ
ฉากตอนท้ายเรื่องที่ Ms. Marvel ไปนั่งบนเสาไฟ เป็นถือเป็นฉากคลาสสิกที่มาจากคอมมิกของ Kamala ซึ่งแฟนๆ คอมมิกอาจจะอินไปกับฉากนี้เพราะมันเป็นภาพเคลื่อนไหวให้เราได้เห็นจริงๆ แล้วนั่นเอง
23. ไปกิน Shawarma
ตอนที่ Bruno พา Nakia และ Kamala ขับรถของ Kamran ไปกิน Shawarma หรือที่เรารู้จักก็คือ Kabab ทำให้นึกถึง Tony Stark ในหนังเรื่อง The Avengers ในปี 2012 ที่เขาอยากกิน Shawarma หลังจากต่อสู้ในสงคราม New York และในฉากเอนเครดิตพวกเขาก็พามากินจริงๆ
24. การมาของ Captain Marvel
ถือเป็นฉากเอนเครดิตที่เซอร์ไพร์สมากๆของซีรีส์เรื่องนี้ที่เราได้เห็นการปรากฏตัวของ Carol Danvers หรือ Captain Marvel ในจักรวาลหลักของ MCU หลังจากที่กำไลของ Kamala ได้ส่งสัญญานอะไรบางอย่างทำให้เธอวาร์ปสลับตัวกับ Carol Danvers ให้เธอมาอยู่ที่ห้องของ Kamala หลายคนบอกว่านี่อาจเป็นความสามารถของ Kamala ที่แปลงเปลี่ยนร่างตัวเองได้เหมือนกับที่เธอทำในคอมมิก ถ้าวิเคราะห์จากภาษากายของนักแสดงของ Carol Danvers การตื่นตกใจและงุ่นงงกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ย่อมไม่ใช่การแปลงร่างของกมลาอย่างแน่นอน ประเด็นนี้ก็ต้องขอบคุณผู้เขียนบทของซีรีส์เรื่องนี้อย่าง Bisha K. Ali ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าฉากเอนเครดิตคือการสลับที่กับ กับ Captain Marvel โดยเธอได้บอกว่า “นั่นคือแครอล แดนเวอร์สในห้องนอนของกมลา สิ่งที่คุณเห็นคือสิ่งที่คุณคิดว่าคุณกำลังเห็นอยู่ นั่นคือเธอ ไม่มีเวทย์มนตร์อยู่ที่นั่น ทั้งหมดที่ฉันสามารถพูดได้มากกว่านี้ก็คือการเพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์ในหนึ่งปี” เราต้องมาติดตามเรื่องราวกันต่อไปว่าเหตุใดถึงมีการสลับตำแหน่งของสองคนนี้ได้ แล้ว Captain Marvel วาร์ปมาจากที่ใด หรือเธอกำลังทำอะไรอยู่กับของบางสิ่งที่สื่อสารถึงกำไลของ Kamala หรือไม่ และ Kamala ไปอยู่ที่ไหนของจักรวาล มันน่าตื่นเต้นมากๆครับสำหรับอนาคตต่อไปที่เราต้องติดตาม
25. เพลงประกอบใน EP.6
- เพลง CPT. SPACE ศิลปิน Janoobi Khargosh เพลงนี้ดังขึ้นในฉาก Logo ของ Marvel Studios โดยศิลปินแนวเพลง Synthesizer pop ที่ใช้ซาวน์เสียงสังเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ ของปากีสถานนั่นเอง
- เพลง LIGHTSWITCH ศิลปิน CHAII เพลงนี้ดังขึ้นตอนที่ Kamala วิ่งผ่านพลังของเธอรอบเมือง Jersey City หลังจากที่เธอได้รับชุดใหม่จากแม่ของเธอ โดย CHAII เป็น Rapper ชาวเปอร์เซียที่เขียนเพลงเองตั้งแต่อายุ 11 ขวบ แนวเพลงของเธอผสมผสานดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ กับ Hiphop นั่นเอง
- เพลง BLOWIN’ OUT SPEAKERS แต่งโดย Tom Griffiths, Adam Zapel, Dayeaux, and Alex Nova
- เพลง KO KO KOREENA ศิลปิน Ahmed Rushdi เพลงนี้ดังขึ้นในฉากที่ D.O.D.C. ไล่ล่าพวก Kamala แล้วมีเครื่องเล่นเพลง Bluetooth เปิดเพลงนี้ ซึ่งเพลงนี้เคยปรากฏแล้วใน EP.1 ในช่วงที่ Kamala มาทำธุระกับแม่ของเธอในตลาด เพลงนี้ เป็นเพลงภาษา Urdu ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงป๊อปเพลงแรกของประเทศปากีสถาน
- เพลง “Anthem” ศิลปิน Swet Shop Boys เพลงนี้เคยปรากฏมาแล้วใน EP.2 ตอนที่ Kamala, Bruno, และ Nakia รวมถึงเพื่อนของเค้านั่งรถของ Kamran เพื่อหนีตำรวจจากงานปาร์ตี้ที่บ้าน Zoe แต่ใน EP.6 ปรากฏในช่วงหลังจากที่ D.O.D.C. ยิงเครื่องเล่นเพลง Bluetooth พังไปแล้ว Swet Shop Boys เป็นดูโอ Hiphop ที่สมาชิกเป็นคนเชื้อสายอินเดียและปากีสถาน
- เพลง HADIPPA by Pritam & DJ Hot Americano เพลงนี้ดังขึ้นในฉากที่พี่ชายของ Kamala นาเคีย และ Zoe ใช้ลูกเบสบอลต่อต้าน D.O.D.C. และเพลงนี้ก็เคยปรากฏมาแล้วใน EP.3 ตอนที่ Kamala กับ Bruno และเพื่อนๆเต้นโชว์ในงานแต่งงานของพี่ชายกมลา โดยศิลปิน Pritam เป็นนักแต่งเพลงนักดนตรีชาวอินเดีย และเล่นกีต้าเก่งมากสามารถนำเอาดนตรีคลาสสิกของอินเดียกับสไตล์ตะวันตกมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
- เพลง Indian Summer ศิลปิน Jai Wolf เพลงนี้ดังขึ้นตอนที่คนใน Social ต่างพูดถึงการเป็นฮีโร่ของ Kamala และฉากที่เธอยืนอยู่หน้ากระจกนั่นเอง โดย Sajeeb Saha หรือที่รู้จักในชื่อ Jai Wolf เป็นโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ชาวบังคลาเทศ – อเมริกันในนิวยอร์ก
- เพลง Aavegi ศิลปิน Ritviz เพลงนี้ดังขึ้นตอนที่ Bruno พา Nakia และ Kamala ขับรถของ Kamran ไปกิน Shawarma หรือที่เรารู้จักก็คือ Kabab นั่นเอง โดย Ritviz เป็นนักร้องนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ และนักดนตรีชาวอินเดีย กับแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ เขาเคยเป็นผู้ชนะในรายการการประกวดเรื่องของดนตรีในประเทศอินเดียอีกด้วย
- เพลง X-MEN ’97 THEME ศิลปิน Haim Saban และ Shuki Levy เพลงนี้ดังขึ้นตอนที่ Bruno บอกกมลาว่าเธอมียีนส์กลายพันธุ์อยู่ในร่างกายของเธอนั่นเอง