เดินทางมาถึง EP.5 ของซีรีส์ Ms. Marvel ซึ่งในตอนนี้เล่าถึงประแบ่งแยกทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนของอินเดียกับปากีสถาน แต่ดูเหมือนว่าทางซีรีส์ เล่าถึงประเด็นนี้มากเกินไป ทำให้เรื่องราวความน่าสนใจดูลดลง แต่ก็แอบหวังว่าซีรีส์จะปล่อยของให้เราได้ว๊าวกันในตอนสุดท้าย ซึ่งใน EP.5 นี้ก็ยังแฝงไปด้วยประเด็นสำคัญความเชื่อมโยงและ Easter Eggs มากมายติดตามครับ
1. เอกสารครอบครัว Khan
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/Screen-Shot-2565-07-07-at-23.45.08.png)
ช่วง Logo เปิดเรื่องราวเราเห็นเอกสารทางราชการที่แสดงสัมโนครัว การตั้งถิ่นฐานใหม่ของครอบครัว Khan ใน East Punjab หรือในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศปากีสถาน โดยระบุรายละเอียดว่า ผู้ใหญ่ชาย 1 ผู้ใหญ่หญิง 1 และเด็กทารก 1 คน นั่นก็หมายถึง Hasan, Aisha และ Sana ในสมัยนั้นนั่นเอง โดยหมายเลขทะเบียนเอกสารนี้ระบุเลข 0012 ซึ่งน่าจะเป็นการอ้างถึงคอมมิก Ms. Marvel #12 ในปี 2015 ที่พูดถึงเรื่องราวของ Kamala มาเยือนเมืองการาจีในปากีสถาน
2. รายละเอียดการแบ่งแยกดินแดน
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/Screen-Shot-2565-07-08-at-00.08.31.png)
ในตอนนี้บอกถึงรายละเอียดที่แท้จริงของประวัติศาสตร์ที่สำคัญแบบเห็นภาพชัดเจนหลังจากที่อังกฤษให้อิรภาพแก่อินเดีย แต่ดูเหมือนเป็นผลบังคับใช้อย่างไม่จริงจัง และยังคงสร้างปัญหาถึงความแตกแยกของสองศาสนาในอินเดียสู่การเคลื่อนย้ายประชากรของชาวมุสลิมในอินเดียตามที่เราเห็นในเรื่อง เพราะอังกฤษใช้หลักแบ่งแยกในการปกครองมาตลอด 200 กว่าปี ทำให้สองศาสนาไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนเกิดความวุ่นวายคร่าชีวิตผู้คนราว 200,000 ถึงสองล้านคน สร้างความบอบช้ำในจิตใจของผู้คนจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งถือว่าเรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอในจุดนี้ออกมาได้เป็นอย่างดี โดยเรื่องราวในตอนนี้เล่าถึงจุดหักเหของการแยกประเทศในช่วงปี 1942
3. ทวด Hasan
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/292420339_5309640412464157_1393948189459849525_n-1024x683.jpeg)
แน่นอนใน EP นี้เราได้เห็นทวด Hasan เกือบทั้งตอนตามที่คาดไว้ในครั้งก่อน ซึ่ง Hasan แสดงโดย Fawad Khan โดย Fawad Khan เป็นนักแสดง โปรดิวเซอร์ นักเขียนบท นายแบบ และนักร้องชาวปากีสถาน ถือว่าเป็นดาราคนนึงที่โด่งดังมากในปากีสถาน รวมถึง Aisha ที่รับบทโดย Mehwish Hayat (เมห์วิช ฮายัต) เป็นนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ชาวปากีสถานที่โด่งดังเช่นเดียวกัน
4. บทกวีของ Rumi
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/1280px-İzmir_Buca_Mevlana_heykeli_ve_mesire_alani_5-1024x768.jpeg)
ฉากที่ Hasan มองหน้า Aisha ก็ทำให้เค้านึกถึงบทกวีบทนึงของ Rumi ที่บอกว่า “When the soul lies down in that grass The World is too full to talk about“ เมื่อบางคนทอดกายนอนบนผืนหญ้าโลกก็เต็มใบจะให้พูดถึง” สิ่งที่เจ้าหาก็ตามหาเจ้า ซึ่งเป็นบทกวีของ Rumi กวีเอกของอิหร่านที่ได้รับอิทธิพลในแถบเอเชียใต้
5. ชื่อของ Sana
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/06/Screen-Shot-2565-06-23-at-19.46.07.png)
ชื่อของคุณยาย Sana ในเรื่องราวของ Ms. Marvel มาจากชื่อของ Sana Amanat ผู้ร่วมสร้างตัวละคร Ms. Marvel และกำหนดทิศทางรูปแบบตัสละครในคอมมิก ซึ่งเธอก็เคยปรากฏตัวเป็น Cameo มาแล้วใน EP.3 ในฉากเต้นรำในงานแต่งของพี่ชาย Kamala
6. ฉากรถไฟที่ถ่ายทำในประเทศไทย
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/Screen-Shot-2565-07-08-at-01.32.34.png)
เบื้องหลังของฉากนี้ทางผู้สร้างได้บอกอย่างชัดเจนว่าใช้สถานที่ในประเทศไทย และคนจำนานมาก เพื่อทำให้เรื่องราวมีความเป็นปากีสถานมากที่สุด เนื่องจากบ้านเรายังคงรักษารถไฟในสมัยนั้นอยู่ รวมถึงปัจจัยอื่นๆที่เหมาะสมกับการถ่ายทำถือว่าทางทีมงานเนมิตรฉากนี้ได้ออกมาดีมาก และมีความคล้ายกับเหตุการณจริงที่เกิดขึ้นในสมัยก่อนเลยทีเดียว
7. กำไลที่ลงอักขระในภายหลัง
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/06/Screen-Shot-2565-06-10-at-19.55.15.png)
ตอนแรกอัครคิดว่ากำไลที่กมลาใส่ กับกำไลที่ Aisha ใส่นั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันเนื่องจากลวดลายที่ลงอักขระของ Aisha ไม่มี แต่ในตอนนี้เผยให้เราได้รู้ว่า Aisha เป็นผู้ลงอักขระกำไลนี้ในภายหลัง ในช่วงตอนเดินทางมาที่สถานีรถไฟและเปิดเผยความจริงว่าเธอเป็น Djinn กับ Hasan นั่นจึงทำให้เราทราบว่ากำไลที่ Aisha ได้มาจากแขนของมนุษย์ลึกลับผิวหนังสีฟ้านั่นเป็นกำไลอันเดียวกันกับที่กมลาได้รับมาจากคุณยาย Sana ใน EP.1 นั่นเอง
8. คืนร่างกลายเป็นหิน
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/Screen-Shot-2565-07-08-at-01.41.37.png)
เมื่อ Najma และ Clandestines คนอื่นๆ ได้สัมผัสกับม่านมิตินูร์ ทำให้พวกเค้ากลายเป็นหินและทิ้งร่างเหลือเพียงโครงกระดูก ซึ่งมีความคล้ายกับเรื่องราวใน Agents of S.H.I.E.L.D. เมื่อ Inhumans ผ่านกระบวนการ “terrigenesis” พวกเค้าก็กลายเป็นหินลักษณะแบบนี้ก่อนที่พวกเค้าจะกลายเป็นคนที่มีพลังในเวลาต่อมา
9. เมื่อ Kamran มีพลัง
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/Screen-Shot-2565-07-08-at-01.50.45.png)
ในตอนนี้การที่ Najma สัมผัสกับม่านมิตินูร์แล้วพูดถึง Kamran ทำให้ Kamran ถูกปลุกพลังที่มาจากม่านมิตินั่นเอง ทำให้เค้ามีพลังเหมือนกมลา และสีของพลังก็เหมือนสีของฉากนึงใน EP.2 ที่กมลาได้มโนตัวเองกับ Kamram ที่กำลังหวานแหววกัน ซึ่งเป็นสีเดียวกับในคอมมิก แต่ในคอมมิก Kamran ได้รับพลังจากหมอก Terrigen Mist ซึ่งเหมือนว่าพลังจากม่านมิตินูร์นี้เปรียบเสมือนหมอก Terrigen Mist ใน MCU ก็เป็นได้
10. Kamran จะเป็นตัวร้ายหรือไม่
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/Screen-Shot-2565-07-06-at-18.49.33-1.png)
เรื่องราวของ Kamran ดูเหมือนว่า MCU จะยังไม่ได้ปูทางให้เค้าเป็นวายร้ายเหมือนในคอมมิกที่เค้าทำงานให้กับ Lineage และได้ลักพาตัวกมลาไปหา Lineage โดยพลังของเค้าสาสามารถมีร่างกายเรืองแสงทั้งตัว แต่ใน MCU ตอนนี้เรายังไม่ได้เห็นพลังเต็มๆของเค้าแต่มีพลังบางอย่างที่เหมือนกันกะคอมมิกก็คือ การปล่อยพลังงานออกมาเป็นช็อตๆ แล้วถ่ายเทพลังงานไปยังวัตถุนั้นพร้อมการเรืองแสงแล้วระเบิดออกมานั้นเอง
11. การเดินทางของเวลาที่วนลูป
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/Screen-Shot-2565-07-01-at-19.40.52.png)
จากซีรีส์ Loki แสดงให้เราเห็นเส้นเวลาหลักของไทม์ไลน์เป็นวงกลม นั่นหมายความเหตุการณ์ของจักรวาลนี้เกิดขึ้นแบบนี้วนไปวนมา และถ้าเรื่องราวไหนถูกกำหนดมาแล้วให้เป็นแบบนี้เมื่อมีการกระทำการใดๆ ก็จะไม่เกิดการแตกแขนงของเส้นเวลาใหม่ อย่างเช่นเรื่องราวการย้อนเวลาต่างๆใน Endgame ที่ทั้งหมดถูกกำหนดมาแล้วภายใต้เส้นเวลาอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ยกเว้นเหตุการณ์ที่ Loki จับ Tesseract ได้แล้วหนีไปในช่วงที่เหล่า Avengers ย้อนเวลาไปในปี 2012 นั่นทำให้เกิดการแตกแขนงของเส้นเวลาใหม่จึงเกิดเป็นเรื่องราวที่เราได้เห็นในซีรีส์ Loki ซึ่งใน EP.5 ของซีรีส์ Ms. Marvel กมลาได้ถูกกำไลทำให้ย้อนเวลาไปในเหตุการณ์รถไปขบวนสุดท้ายเพื่อช่วยคุณยาย Sana และตัวเธอเองเป็นผู้สร้างเส้นทางดวงดาวนี้ตามที่คุณยายได้เล่าขานมานานหลายสิบปี นั่นเป็นข้อพิสูจน์อย่างดีที่สอดคล้องกับชื่อตอนนี้ว่า “ซ้ำแล้วซ้ำเล่า” หรือ “Time and Again” และยืนยันอีกครั้งว่า ไทม์ไลน์หลักของ MCU เดินทางเป็นวงกลมนั่นเอง
12. สร้อยของกมลาที่หัก
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/Screen-Shot-2565-07-06-at-18.20.36.png)
ฉากนึงที่แม่ของกมลาพบสร้อยที่เป็นชื่อเธอที่หักกลายเป็นรูปสายฟ้า นั่นทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์สายฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ms. Marvel ในเวลาต่อมานั่นเอง
13. แนวเดียวกัน
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/Screen-Shot-2565-07-08-at-02.23.58.png)
ดูเหมือนว่า Kamran และ Bruno ชื่นชอบธาตุในตารางธาตุเหมือนกัน ก็คือธาตุ Ar (อาร์กอน) เป็นธาตุหมู่ 8 คาบที่ 3 ในตารางธาตุ มีคุณสมบัติเป็นแก๊สเฉื่อย เป็นสารประกอบในหลอดไฟนีออน ไฟหลอด fluorescent และกอื่นๆในปัจจุบัน
14. องค์กรที่ไม่ได้ควบคุมความเสียหาย
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/Screen-Shot-2565-07-08-at-02.34.20.png)
ดูเหมือนว่า Kamran จะโดย D.O.D.C. ไล่ตามโดยโดรนที่เหมือนับ โดรนที่ตามกมลาใน EP.2 ซึ่งโดรนก็ได้ปล่อยระเบิดเข้าไปในร้าน Circle Q ดูเหมือนจะขัดต่อชื่อองค์การที่ควบคุมความเสียหาย แต่กลับสร้างความเสียหานซะเอง ดูแล้วก็ทำให้นึกถึงร้าน Delmar’s Deli ใน Spider-Man: Homecoming ที่โดนระเบิดลักษณะนี้เช่นเดียวกัน
15. เพลงประกอบใน EP.5
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/Dillagi_1949.jpeg)
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/81hLXnWyrXL._SS500_.jpg)
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/ab67616d0000b273672eb957378afcc5183102a0.jpeg)
![](https://akarachannel.com/wp-content/uploads/2022/07/artworks-ERLycewj06jD7olH-dhk0nw-t500x500.jpeg)
- เพลง Tu Mera Chand ศิลปิน Shyam และ Suraiya เพลงนี้ดังขึ้นตอนเริ่มต้นเรื่องราวตั้งแต่ Logo ของ Marvel Studios เพลงนี้เป็นเพลงที่ประกอบหนังของ Bollywood เรื่อง Dillagi ในปี 1949 ที่แสดงโดย Shyam และ Suraiya ซึ่งทำให้เพลงนี้โด่งดังมากในยุคนั้น โดยหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงหลังที่อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ 2 ปี
- เพลงบรรเลง Anguish And Despair ประพันธ์โดย John Harbury เพลงนี้ดังขึ้นในช่วงมีการบรรยายเหตุการณ์ของการแบ่งแยกประเทศในตอนต้นเรื่องนี้
- เพลง AAJA RI NINDIYA ประพันธ์โดย Noor Jehan เพลงนี้ Aisha ร้องกล่อม Sana เหมือนต้องมนตร์ตามที่ Hasan ได้กล่าวไว้ โดยผู้ร้องเพลงจริงๆของเพลงนี้คือ Noor Jehan คือนักร้องนักแสดงชาวปากีสถานที่ไปทำงานครั้งแรกในอินเดีย จนโด่งดังเกือบ 6 ทศวรรษถือว่าเป็นหนึ่งในนักร้องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในแถบเอเชียใต้
- เพลง TU JHOOM ศิลปิน Naseebo Lal and Abida Parveen เพลงนี้ดังขึ้นตอนฉากเครดิตท้ายเรื่อง โดย Naseebo Lal เป็นนักร้องเพลงพื้นเมืองของชาวปากีสถานและส่วนใหญ่ร้องเพลงในภาษาปัญจาบ อูรดู และมาวารี นอกจากนี้เธอยังเป็นนักแสดงละครเวทีที่โด่งดังในสมัยก่อนของปากีสถานอีกด้วย ส่วน Abida Parveen เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรีชาวปากีสถาน นอกจากนี้เธอยังเป็นจิตรกรอีกด้วย แนวเพลงของเธอเรียกว่า Sufi Music ซึ่งเป็นเพลงสักการะบูชาของอิสลามซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของกวีของกวีเอกต่างๆ หนึ่งในนั้นเป็นบทกวีของ Rumi ที่ Hasan ได้กล่าวไว้ในตอนต้นเรื่อง