วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

Ms. Marvel (EP.5) กับ 15 ประเด็นสำคัญ ความเชื่อมโยง และ Easter Eggs

08 ก.ค. 2022
848

เดินทางมาถึง EP.5 ของซีรีส์ Ms. Marvel ซึ่งในตอนนี้เล่าถึงประแบ่งแยกทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนของอินเดียกับปากีสถาน แต่ดูเหมือนว่าทางซีรีส์ เล่าถึงประเด็นนี้มากเกินไป ทำให้เรื่องราวความน่าสนใจดูลดลง แต่ก็แอบหวังว่าซีรีส์จะปล่อยของให้เราได้ว๊าวกันในตอนสุดท้าย ซึ่งใน EP.5 นี้ก็ยังแฝงไปด้วยประเด็นสำคัญความเชื่อมโยงและ Easter Eggs มากมายติดตามครับ

1. เอกสารครอบครัว Khan

ช่วง Logo เปิดเรื่องราวเราเห็นเอกสารทางราชการที่แสดงสัมโนครัว การตั้งถิ่นฐานใหม่ของครอบครัว Khan ใน East Punjab หรือในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศปากีสถาน โดยระบุรายละเอียดว่า ผู้ใหญ่ชาย 1 ผู้ใหญ่หญิง 1 และเด็กทารก 1 คน นั่นก็หมายถึง Hasan, Aisha และ Sana ในสมัยนั้นนั่นเอง โดยหมายเลขทะเบียนเอกสารนี้ระบุเลข 0012 ซึ่งน่าจะเป็นการอ้างถึงคอมมิก Ms. Marvel #12 ในปี 2015 ที่พูดถึงเรื่องราวของ Kamala มาเยือนเมืองการาจีในปากีสถาน 

2. รายละเอียดการแบ่งแยกดินแดน

ในตอนนี้บอกถึงรายละเอียดที่แท้จริงของประวัติศาสตร์ที่สำคัญแบบเห็นภาพชัดเจนหลังจากที่อังกฤษให้อิรภาพแก่อินเดีย แต่ดูเหมือนเป็นผลบังคับใช้อย่างไม่จริงจัง และยังคงสร้างปัญหาถึงความแตกแยกของสองศาสนาในอินเดียสู่การเคลื่อนย้ายประชากรของชาวมุสลิมในอินเดียตามที่เราเห็นในเรื่อง เพราะอังกฤษใช้หลักแบ่งแยกในการปกครองมาตลอด 200 กว่าปี ทำให้สองศาสนาไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนเกิดความวุ่นวายคร่าชีวิตผู้คนราว 200,000 ถึงสองล้านคน สร้างความบอบช้ำในจิตใจของผู้คนจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งถือว่าเรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอในจุดนี้ออกมาได้เป็นอย่างดี โดยเรื่องราวในตอนนี้เล่าถึงจุดหักเหของการแยกประเทศในช่วงปี 1942

3. ทวด Hasan

แน่นอนใน EP นี้เราได้เห็นทวด Hasan เกือบทั้งตอนตามที่คาดไว้ในครั้งก่อน ซึ่ง Hasan แสดงโดย Fawad Khan โดย Fawad Khan  เป็นนักแสดง โปรดิวเซอร์ นักเขียนบท นายแบบ และนักร้องชาวปากีสถาน ถือว่าเป็นดาราคนนึงที่โด่งดังมากในปากีสถาน รวมถึง Aisha ที่รับบทโดย Mehwish Hayat (เมห์วิช ฮายัต) เป็นนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ชาวปากีสถานที่โด่งดังเช่นเดียวกัน

4. บทกวีของ Rumi

ฉากที่ Hasan มองหน้า Aisha ก็ทำให้เค้านึกถึงบทกวีบทนึงของ Rumi ที่บอกว่า “When the soul lies down in that grass The World is too full to talk about“ เมื่อบางคนทอดกายนอนบนผืนหญ้าโลกก็เต็มใบจะให้พูดถึง” สิ่งที่เจ้าหาก็ตามหาเจ้า ซึ่งเป็นบทกวีของ Rumi กวีเอกของอิหร่านที่ได้รับอิทธิพลในแถบเอเชียใต้

5. ชื่อของ Sana 

ชื่อของคุณยาย Sana ในเรื่องราวของ Ms. Marvel มาจากชื่อของ Sana Amanat ผู้ร่วมสร้างตัวละคร Ms. Marvel และกำหนดทิศทางรูปแบบตัสละครในคอมมิก ซึ่งเธอก็เคยปรากฏตัวเป็น Cameo มาแล้วใน EP.3 ในฉากเต้นรำในงานแต่งของพี่ชาย Kamala

6. ฉากรถไฟที่ถ่ายทำในประเทศไทย

เบื้องหลังของฉากนี้ทางผู้สร้างได้บอกอย่างชัดเจนว่าใช้สถานที่ในประเทศไทย และคนจำนานมาก เพื่อทำให้เรื่องราวมีความเป็นปากีสถานมากที่สุด เนื่องจากบ้านเรายังคงรักษารถไฟในสมัยนั้นอยู่ รวมถึงปัจจัยอื่นๆที่เหมาะสมกับการถ่ายทำถือว่าทางทีมงานเนมิตรฉากนี้ได้ออกมาดีมาก และมีความคล้ายกับเหตุการณจริงที่เกิดขึ้นในสมัยก่อนเลยทีเดียว

7. กำไลที่ลงอักขระในภายหลัง

ตอนแรกอัครคิดว่ากำไลที่กมลาใส่ กับกำไลที่ Aisha ใส่นั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันเนื่องจากลวดลายที่ลงอักขระของ Aisha ไม่มี แต่ในตอนนี้เผยให้เราได้รู้ว่า Aisha เป็นผู้ลงอักขระกำไลนี้ในภายหลัง ในช่วงตอนเดินทางมาที่สถานีรถไฟและเปิดเผยความจริงว่าเธอเป็น Djinn กับ Hasan นั่นจึงทำให้เราทราบว่ากำไลที่ Aisha ได้มาจากแขนของมนุษย์ลึกลับผิวหนังสีฟ้านั่นเป็นกำไลอันเดียวกันกับที่กมลาได้รับมาจากคุณยาย Sana ใน EP.1 นั่นเอง 

8. คืนร่างกลายเป็นหิน

เมื่อ Najma และ Clandestines คนอื่นๆ ได้สัมผัสกับม่านมิตินูร์ ทำให้พวกเค้ากลายเป็นหินและทิ้งร่างเหลือเพียงโครงกระดูก ซึ่งมีความคล้ายกับเรื่องราวใน Agents of S.H.I.E.L.D. เมื่อ Inhumans ผ่านกระบวนการ “terrigenesis” พวกเค้าก็กลายเป็นหินลักษณะแบบนี้ก่อนที่พวกเค้าจะกลายเป็นคนที่มีพลังในเวลาต่อมา 

9. เมื่อ Kamran มีพลัง

ในตอนนี้การที่ Najma สัมผัสกับม่านมิตินูร์แล้วพูดถึง Kamran ทำให้ Kamran ถูกปลุกพลังที่มาจากม่านมิตินั่นเอง ทำให้เค้ามีพลังเหมือนกมลา และสีของพลังก็เหมือนสีของฉากนึงใน EP.2 ที่กมลาได้มโนตัวเองกับ Kamram ที่กำลังหวานแหววกัน ซึ่งเป็นสีเดียวกับในคอมมิก แต่ในคอมมิก Kamran ได้รับพลังจากหมอก Terrigen Mist ซึ่งเหมือนว่าพลังจากม่านมิตินูร์นี้เปรียบเสมือนหมอก Terrigen Mist ใน MCU ก็เป็นได้

10. Kamran จะเป็นตัวร้ายหรือไม่

เรื่องราวของ Kamran ดูเหมือนว่า MCU จะยังไม่ได้ปูทางให้เค้าเป็นวายร้ายเหมือนในคอมมิกที่เค้าทำงานให้กับ Lineage และได้ลักพาตัวกมลาไปหา Lineage โดยพลังของเค้าสาสามารถมีร่างกายเรืองแสงทั้งตัว แต่ใน MCU ตอนนี้เรายังไม่ได้เห็นพลังเต็มๆของเค้าแต่มีพลังบางอย่างที่เหมือนกันกะคอมมิกก็คือ การปล่อยพลังงานออกมาเป็นช็อตๆ แล้วถ่ายเทพลังงานไปยังวัตถุนั้นพร้อมการเรืองแสงแล้วระเบิดออกมานั้นเอง 

11. การเดินทางของเวลาที่วนลูป

จากซีรีส์ Loki แสดงให้เราเห็นเส้นเวลาหลักของไทม์ไลน์เป็นวงกลม นั่นหมายความเหตุการณ์ของจักรวาลนี้เกิดขึ้นแบบนี้วนไปวนมา และถ้าเรื่องราวไหนถูกกำหนดมาแล้วให้เป็นแบบนี้เมื่อมีการกระทำการใดๆ ก็จะไม่เกิดการแตกแขนงของเส้นเวลาใหม่ อย่างเช่นเรื่องราวการย้อนเวลาต่างๆใน Endgame ที่ทั้งหมดถูกกำหนดมาแล้วภายใต้เส้นเวลาอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ยกเว้นเหตุการณ์ที่ Loki จับ Tesseract ได้แล้วหนีไปในช่วงที่เหล่า Avengers ย้อนเวลาไปในปี 2012 นั่นทำให้เกิดการแตกแขนงของเส้นเวลาใหม่จึงเกิดเป็นเรื่องราวที่เราได้เห็นในซีรีส์ Loki ซึ่งใน EP.5 ของซีรีส์ Ms. Marvel กมลาได้ถูกกำไลทำให้ย้อนเวลาไปในเหตุการณ์รถไปขบวนสุดท้ายเพื่อช่วยคุณยาย Sana และตัวเธอเองเป็นผู้สร้างเส้นทางดวงดาวนี้ตามที่คุณยายได้เล่าขานมานานหลายสิบปี นั่นเป็นข้อพิสูจน์อย่างดีที่สอดคล้องกับชื่อตอนนี้ว่า “ซ้ำแล้วซ้ำเล่า” หรือ “Time and Again” และยืนยันอีกครั้งว่า ไทม์ไลน์หลักของ MCU เดินทางเป็นวงกลมนั่นเอง

12. สร้อยของกมลาที่หัก

ฉากนึงที่แม่ของกมลาพบสร้อยที่เป็นชื่อเธอที่หักกลายเป็นรูปสายฟ้า นั่นทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์สายฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ms. Marvel ในเวลาต่อมานั่นเอง

13. แนวเดียวกัน

ดูเหมือนว่า Kamran และ Bruno ชื่นชอบธาตุในตารางธาตุเหมือนกัน ก็คือธาตุ Ar (อาร์กอน) เป็นธาตุหมู่ 8 คาบที่ 3 ในตารางธาตุ มีคุณสมบัติเป็นแก๊สเฉื่อย เป็นสารประกอบในหลอดไฟนีออน ไฟหลอด fluorescent และกอื่นๆในปัจจุบัน

14. องค์กรที่ไม่ได้ควบคุมความเสียหาย

ดูเหมือนว่า Kamran จะโดย D.O.D.C. ไล่ตามโดยโดรนที่เหมือนับ โดรนที่ตามกมลาใน EP.2 ซึ่งโดรนก็ได้ปล่อยระเบิดเข้าไปในร้าน Circle Q ดูเหมือนจะขัดต่อชื่อองค์การที่ควบคุมความเสียหาย แต่กลับสร้างความเสียหานซะเอง ดูแล้วก็ทำให้นึกถึงร้าน Delmar’s Deli ใน Spider-Man: Homecoming ที่โดนระเบิดลักษณะนี้เช่นเดียวกัน 

15. เพลงประกอบใน EP.5

  1. เพลง Tu Mera Chand ศิลปิน Shyam และ Suraiya เพลงนี้ดังขึ้นตอนเริ่มต้นเรื่องราวตั้งแต่ Logo ของ Marvel Studios เพลงนี้เป็นเพลงที่ประกอบหนังของ Bollywood เรื่อง Dillagi ในปี 1949 ที่แสดงโดย Shyam และ Suraiya ซึ่งทำให้เพลงนี้โด่งดังมากในยุคนั้น โดยหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงหลังที่อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ 2 ปี
  2. เพลงบรรเลง Anguish And Despair ประพันธ์โดย John Harbury เพลงนี้ดังขึ้นในช่วงมีการบรรยายเหตุการณ์ของการแบ่งแยกประเทศในตอนต้นเรื่องนี้ 
  3. เพลง AAJA RI NINDIYA ประพันธ์โดย Noor Jehan เพลงนี้ Aisha ร้องกล่อม Sana เหมือนต้องมนตร์ตามที่ Hasan ได้กล่าวไว้ โดยผู้ร้องเพลงจริงๆของเพลงนี้คือ Noor Jehan คือนักร้องนักแสดงชาวปากีสถานที่ไปทำงานครั้งแรกในอินเดีย จนโด่งดังเกือบ 6 ทศวรรษถือว่าเป็นหนึ่งในนักร้องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในแถบเอเชียใต้
  4. เพลง TU JHOOM ศิลปิน Naseebo Lal and Abida Parveen เพลงนี้ดังขึ้นตอนฉากเครดิตท้ายเรื่อง โดย Naseebo Lal เป็นนักร้องเพลงพื้นเมืองของชาวปากีสถานและส่วนใหญ่ร้องเพลงในภาษาปัญจาบ อูรดู และมาวารี นอกจากนี้เธอยังเป็นนักแสดงละครเวทีที่โด่งดังในสมัยก่อนของปากีสถานอีกด้วย ส่วน Abida Parveen  เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรีชาวปากีสถาน นอกจากนี้เธอยังเป็นจิตรกรอีกด้วย แนวเพลงของเธอเรียกว่า Sufi Music ซึ่งเป็นเพลงสักการะบูชาของอิสลามซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของกวีของกวีเอกต่างๆ หนึ่งในนั้นเป็นบทกวีของ Rumi ที่ Hasan ได้กล่าวไว้ในตอนต้นเรื่อง

12 คำถามคาใจหลังดู Ms. Marvel จบลง และอนาคตที่น่าจะเกิดต่อไป

Ms. Marvel (EP.6) ตอนจบ กับ 25 ประเด็นสำคัญ ความเชื่อมโยง และ Easter Eggs

อธิบายฉาก End Credits ซีรีส์ Ms. Marvel (สปอยล์)

คุยกันหลังดูและฉากเครดิต ซีรีส์ Ms. Marvel ตอนจบ (EP.6) “ความธรรมดาที่แสนวิเศษ”

คุยกันหลังดูซีรีส์ Ms. Marvel ตอนที่ 5 (EP.5) “ความจริงของเส้นทางดวงดาว”

Ms. Marvel (EP.4) กับ 22 ประเด็นสำคัญ ความเชื่อมโยง และ Easter Eggs

คุยกันหลังดูซีรีส์ Ms. Marvel ตอนที่ 4 (EP.4) “โกรธ | Seeing Red”

Ms. Marvel (EP.3) กับ 22 ประเด็นสำคัญ ความเชื่อมโยง และ Easter Eggs