ซีรีส์ Ms. Marvel EP.2 กับชื่อตอนที่ชื่อว่า Crushed ก็มาพร้อมกับตัวละครใหม่อย่าง Kamran ในคอมมิก Kamran เป็นเพื่อนตอนเด็กของ Kamala ที่ขาดการติดต่อกันไป และต้นกำเนิดของทั้ง Kamala และ Kamran ก็มีความเกี่ยวข้องกับหมอก Terrigen โดย Kamran ปรากฏในคอมมิก Ms. Marvel Vol. 3 ในปี 2015 กับชื่อตอนว่า Crushed ซึ่งเป็นชื่อตอนเดียวกันกับซีรีส์ Ms. Marvel ใน EP.2 นี้ การมาของ Kamran ในซีรีส์ตอนนี้ดูแปลกๆ อาจจะไม่ได้มาดีหรือมีอะไรแฝงอยู่ รวมถึงองค์กร D.O.D.C. ด้วยเช่นกัน นอกจากการนี้การปรากฏตัวของแม่ Kamran กับหญิงสาวที่อยู่ในนิมิตที่มาพร้อมกับแสงสีม่วงที่หน้าเหมือนแม่ Kamran มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวนี้อย่างไร นอกจากนี้ยังมีประเด็นความเชื่อมโยงต่าง ๆ และ Easter Eggs มากมายที่อ้างถึงใน MCU และ คอมมิก ซึ่งจะมีเรื่องราวอะไรบ้างนั้น ติดตามครับ
1. เข็มกลัด Save Ferris
ฉากเกิดตัวของ Kamala ใน EP. ที่เธอมาพร้อมกับเพลง “Feel So Good” ของ Mase โดยเธอก็ได้กลัดเข็มกลัดที่เขียยคำว่า Save Ferris เป็นการอ้างถึงชื่อวง Save Ferris วงอเมริกันก่อตั้งขึ้นในปี 1995 และวงนี้ยังได้รับรางวัลแกรมมี่อีกด้วย นอกจากนี้คำนี้ยังอ้างอิงถึง ภาพยนตร์เรื่อง Ferris Bueller’s Day Off ในปี 1986 อีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดแคมเปน Save Ferris ที่โด่งดัง
2. Kamala คิดว่าเธอมีพลังเหมือน Ant-Man
เรียกได้ว่าซีรีส์เรืองนี้อ้างถึง Ant-Man หลายครั้งมาก และใน EP. นี้ดูเธอจะรู้สึกตื่นเต้นกับพลังของเธอเพราะเธอสามารถมีพลังที่เปลี่ยนขนาดของขนาดมือเธอตามความคิดได้ นั้นทำให้เธอจินตนาการว่าเธออาจมีพลังที่เปลี่ยนแปลงขนาดได้เหมือนกับของ Ant-Man ซึ่งการเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ก็ไม่ต่างจากพลังของ Kamala ในคอมมิกเพราะไม่เพียงแต่เธอจะสามารถเปลี่ยนขนาดได้ยังสามารถยืดหดได้ นอกจากนี้เธอก็ยังคิดว่าเธอหน้าเด็กอ่อนกว่าวัยและหน้าตาดีเหมือน Ant-Man นั่นเอง
3. Textbook วิชาเคมี
Kamala ถือ Textbook ของวิชาเคมี ทำให้นึกถึงฉากที่ MJ และ Peter นอนคุยกันอยู่บนดาดฟ้าของตึกในโรงเรียนซึ่ง Peter ก็ได้ใช้ Textbook ของวิชาเคมีเป็นหมอนรองหัวนั่นเอง
4. QR-Code
ใน EP.2 นี้ก็ปรากฏ QR-Code ในฉากที่ Brono และ Kamala เดินออกจาโซนล๊อคเกอร์โดย Qr-Code นี้อยู่ที่โปสเตอร์ที่บอกวิสันทัศน์ของโรงเรียน ซึ่งถ้าสแกนแล้วเราก็จะพบกับคอมมิก Ms. Marvel #15 ในปี 2015 ที่เป็นเรื่องราวการพบกันของ Kamran และ Kamala ก็เหมือนกับใน EP.1 มีการปรากฏ Qr-Code ที่ร้าน Circle Q ที่ตู้ ATM นั่นคือคอมมิก Ms. Marvel #1 ในปี 2014 ที่ Marvel ได้ให้เราได้อ่านฟรีนั้นเอง
5. Captain Marvel ราคาถูก
มุขนี้ Nakia ได้พูดออกมาหลังจากที่เธอได้ยิน Zoe พูดเรื่องราวที่เธอถูกช่วยชีวิตจาก Kamala ในชุด Captain Marvel ที่งาน AvengerCon แน่นอน Nakia ไม่รู้ว่า Kamala เป็นคนประกวดคอสเพลย์ในชุดนั้นทำให้ Nakia อ้างว่าเธอเป็น Captain Marvel ราคาถูก และก็เคยมีนักวิจารณ์บางคนก็เคยพูดถึงประเด็นนี้ว่า Ms. Marvel ก็เหมือน Captain Marvel ราคาถูก ในตอนที่คอมมิก Ms. Marvel เพิ่งจะได้ปล่อยออกมา แต่นั้นก็ทำให้ตัวละครตัวนี้ได้รับความนิยมนโลกคอมมิกในเวลาต่อมา นั้นทำให้ Kamala Khan จะต้องหาทางก้าวออกมาจากเงาของ Captain Marvel ให้การเป็นฮีโร่อยู่ในแบบของตัวเธอ แบบที่เธอเป็นนั่นเอง
6. ความสัมพันธ์ของ Kamran และ Kamala
เรื่องราวของ Kamran ได้รับการเปิดตัวในคอมมิก Ms. Marvel Vol. 3 ในปี 2015 แต่โครงเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นการอ้างถึงคอมมิก Ms. Marvel #13 #14 และ #15 ซึ่งดูเหมือนว่า Kamala กำลังปิ้ง Kamran อย่างจัง ส่วน Kanram ก็สนองความรักของเธออย่างน่าสงสัย และดูเหมือนจะแฝงด้วยอะไรบางอย่างที่ตามมา โดยใช้ความเชื่อมโยงจากหนัง Bollywood ที่ทั้งคู่ต่างชื่นชอบ โดยฉากสุดท้ายก่อนจบตอนนี้ Kamran มารับ Kamala ขึ้นรถและแนะนำให้รู้จักแม่ของเธอ ซึ่งคล้ายกับคอมมิก Ms. Marvel #14 มากที่มีคนมารับเธอขึ้นรถไป และเปิดเผยว่าเขาทำงานให้กับกลุ่มวายร้ายที่ชื่อว่า Nuhuman ซึ่งเป็นศัตรูของ Ms. Marvel ในเวลาต่อมา ซึ่งในคอมมิก Kamran เป็น Nuhuman ที่มีร่างกายเรืองแสงและสามารถถ่ายเทพลังงานเป็นการระเบิดได้ เพราะพลังของเค้าถูกเปิดใช้งานโดย Terrigen Bomb และที่สำคัญ Kamran ทำงานให้กับ Gordon Nobili หรือวายร้ายที่เรียกว่า Lineage รวมถึงฉากที่ Kamran โดดลงน้ำโดยเอาช่วงท้องลง ซึ่ง Bruno บอกว่าเขาต้องเจ็บแน่ๆแต่ Kamran ดูเหมือนจะชิลมากๆ นั่นก็อาจหมายความว่าเขาอามีพลัง Inhuman ทำให้เขาไม่เป็นอะไรจากการการโดนน้ำผิดท่านี้นั่นเอง
7. หมัดยักษ์ของ Ms. Marvel
ดูเหมือนว่า Kamala จะสร้างพลังที่มีความทรงพลังได้ไม่อยาก ตามความรู้สึกนึกคิดของเธอ ซึ่งก็ไม่ต่างจากคอมมิกที่เธอสามารถสร้างหมัดนูนแบบนี้ได้ เพียงแต่รูปลักษณ์พลังมีความแตกต่างกัน แต่ดูเหมือนว่าในซีรีส์เรื่องนี้ Kamala ยังมีร่างกายที่ไม่พร้อมต่อการใช้พลังเท่าที่ควร ดังนั้นเธอต้องฝึกฝนร่างกายอีกมาก ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะเห็น Kamala มีรูปร่างที่ดีและสวยขึ้นขนาดเธอดูอวบๆในตอนนี้ก็ยังน่ารักมากแล้ว ถ้าร่างกายฟิตหน่อยอาจจะสวยขึ้นเยอะเลยถือว่าสร้างแรงดึงดูดให้กับคนดูได้อีกมาก และไม่แน่ชุดที่เธอจะใส่ในอนาคตอาจจะเพิ่มความสามารถอะไรบางอย่างให้กับตัวเธอก็เป็นได้
8. พลังที่มาจากในตัวเธอ
การที่ Bruno ทดสอบสมรรถภาพร่างกายของเธอทำให้เรารู้ว่าพลังของ Kamala ไม่ได้มาจากกำไล แต่พลังมาจากภายในตัวเธอย่างชัดเจน กำไลเป็นเพียงตัวกระตุ้นให้เธอมีพลังตามแบบที่เราเห็น ซึ่งเรื่องราวตรงนี้คือความเหมือนในความต่างจากคอมมิก เพราะในคอมมิก Kamala เกิดมาพร้อมกับยีนส์ Inhuman ที่ซ่อนอยู่ซึ่งถูกกระตุ้นเมื่อเธอสัมผัสกับ Terrigen Mists ซึ่ง MCU อาจจะเล่าเรื่องราวให้ต่างออกไปแต่สุดท้ายเธอก็เป็น Inhuman ซึ่งกำไลอาจจะเกี่ยวข้องกับ Terrigen Mists หรือ Terrigen Crystal และปลุกพลังในตัวเธอนั่นเอง นอกจากนี้กำไลก็เหมือนจะเป็นการสลักภาษา ที่ Kamala เดาว่าน่าจะเป็นภาษาอาราบิก หรือภาษาอูราดู ซึ่งในประเด็นนี้เราต้องมาติดตามกันต่อไป
9. Kamala คิดว่าเธออาจจะเป็นชาว Asgard
ดูเหมือนว่า Kamala จะยังไม่รู้จัก Inhumans แต่สิ่งที่เธอรู้คือเธอคิดว่าเธอมียีนส์ของชาว Asgard ในตัวเธอซึ่งเธอก็พูดติดตลกว่าเธออาจจะเป็นญาตกับ Thor นั่นทำให้เป็นความเชื่อมโยงในโลกของ MCU ว่า ณ ตอนนี้ชาว Asgard ได้อยู่ศัยอยู่บนโลกที่เมือง Tornberg ประเทศ Norway เรียกเมืองนี้ว่า New Asgard และนั่นบ่งบอกถึงชาว Asgard ที่มีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์มานับพันปีแล้ว New Asgard ถูกสร้างขึ้นในบริเวณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์สำหรับชาว Asgardian บนโลกดังนั้นมันก็น่าจะมียีนส์ของชาว Asgard ปะปนอยู่ในโลกของเราหรืออาจจะผสมกับมนุษย์ในโลกของเราแล้วนั้นเอง จึงไม่แปลกที่ Kamala คิดว่าเธออาจจะเป็นชาว Asgard
10. “Hard Light” เป็นการอ้างจากคอมมิกของ X-Men
Kamala Khan ได้อธิบายโครงสร้างพลังของเธอว่าเป็น “Hard Light” หรือแสงที่มีความแข็งเหมือนผลึกคริสตอล ซึ่ง Hard Light เป็นคำที่พูดถึงในคอมมิกมาแล้วถูกใช้ในเรื่องราวของ X-Men โดยอ้างถึง Danger Room ห้องอันตรายถูกสร้างขึ้นโดย Charles Xavier เพื่อฝึก X-Men ของเขา โดยใช้รูปแบบ โฮโลแกรมสร้างเป็นแสง “Hard Light” เป็นศัตรูอีกฝ่ายเพื่อให้เหล่า Mutant ฝึกหัดได้ฝึกฝนตนเอง แต่รูปแบบพลังที่เกิดขึ้นที่ Kamala เรียกว่า “Hard Light” ยังมีความแตกต่างจากในคอมมิกอยู่มาก
11. จิตกรรมฝาผนังจาก BMike
ฉากที่ Kamala กำลังฝึกฝนตัวเองเราเก็นภาพวาดที่มีข้อความว่า Long Live Family บนฝาผนังมาจากศิลปินที่ชื่อว่า BMKIE หรือ Brandan ‘BMike’ Odums ถือเป็นศิลปินนักเคลื่อนไหวสังคมที่สร้างแรงบัลดาลใจผ่านรูปภาพที่เขาวาด และเป็นผู้บุกเบิกที่ใช้ศิลปะในการระดมทุนและให้ความรู้แก่ชุมชนในท้องถิ่นของเขา ถือเป็นศิลปินที่เป็นตัวอย่างให้กับศิลปินอื่นๆรุ่นใหม่มากมาย
12. เกมที่ Luckys Tale ที่ Bruno เล่น
เกมที่ Bruno เล่นชื่อเกมว่า Luckys Tale ซึ่งตัวละครของเกมจะกระโดดจากจุดลอยไปยังที่จุดนึง ซึ่งเหมือนว่า Kamala มอง Bruno เล่นแล้วเอามาเป็นการกระโดดในอากาศของเธอไปยังจุดต่างๆ ถือเป็นรายละเอียดของเรื่องราวที่ผู้กำกับผูกโยงได้อย่างละเอียดจริงๆ
13. ฉากตกตึก
ฉากในระหว่างที่ Bruno กับ Kamala กำลังซ้อมและฝึกฝนร่างกายอยู่ดี ๆ Kamala ก็พลัดตกตึกซึ่งมือของ Bruno จับไว้โดยเธอบอกให้ปล่อยมือ ฉากนี้ทำนึถึงฉากที่ Clint Barton และ Natasha ที่ดาว Vormir ใน Avengers: Endgame ก่อนที่ Black Widow จะเสียชีวิตเพื่อแลกกับ Soul Stone นั่นเอง ซึ่งก็เป็นช่วงตึกของร้าน Circle Q ที่ใน EP.1 พวกเค้านั่งคุยกันสังเกตจากโปสเตอร์ที่เขียนว่า Iron Brand แปะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันนั่นเอง
14. รองเท้าของ Nakia ที่หายไป
หลังจากที่ Nakia และ Kamala ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเสร็จ ที่ชั้นวางรองเท้าไมพบรองเท้าของ Nakia ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ยี่ห้อเวอร์ซาเช่ นั่นเป็นเหตุให้ Nakia ลงสมัครเลือกตั้งเป็นกรรมการสุหร่า แน่นอนเราพบร้องเท้าแบบเดียวกับเธอยี่ห้อเดียวกันกับเด็กชายที่ Kamala ช่วยไว้ในตอนเท้ายของเรื่องราว แน่นอนพวกเราต้องคิดว่าเด็กคนนี้จะต้องขโมยรอเท้าของ Nakia หรืออาจจะเป็นยี่ห้อและรุ่นเดียวกันก็เป็นได้
15. ร่างกายที่มีแสงแบบควบคุมไม่ได้
ในฉากนึงที่จมูกของ Kamala มีแสงออกมาซึ่งดูเหมือนว่า ณ ตอนนี้เธอยังควบคุมพลังของเธอได้ไม่ดีพอ ดูแล้วแสงที่ออกมาจากร่างกายนั้นมีความคล้ายกับ Kamran ในคอมมิก ความคล้ายคลึงกันไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญอย่างแน่นอนแต่เป็นการชี้ให้เราเข้าใจว่าทำไม MCU เปลี่ยนแปลงรูปแบบพลังของเธอให้ต่างไปจากคอมมิก เพราะนั้นอาจจะทำให้เราเห็นความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมระหว่าง Kamala และ Kamran ในตอนต่อ ๆ ไป เชื่อว่า MCU คิดมาดีแล้วและมีเหตุผลที่จะทำให้เราเข้าใจในอนาคตได้เป็นอย่างดีแน่นอน
16. โครงการนิสิตข้ามชั้นที่ Bruno ได้รับ
เมื่อ Bruno เหมือนได้ทุนไปเรียนมหาลัยซึ่งครู G.W.W. ก็โน้นน้าวให้ Bruno ตกลงที่จะเข้าร่วมโครงการนี้เพราะว่าเขายังลังเลว่าจะตัดสินในอย่างไร โดยครูก็ยกตัวอย่างเรื่องการที่มีคนอื่นๆ เข้าหาตัวเอกของเรื่องในหนัง อย่างเช่น Star Wars ที่พูดถึง Jedi หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการโทรตามของบอสที่เป็น บ.ก. หนังสือแฟชันอย่าง ที่แสดงโดย Meryl Streep จากหนังเรื่อง “The Devil Wears Prada” นั่นเอง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า Bruno จะตกลงหรือไม่เนื่องจากมหาลัยอยู่ตั้งแคลิฟอเนีย
17. ชุดของ Bruno
ฉากนึงที่ Kamala กำลังจะไปขับรถเล่นกับ Kamran แต่ Bruno ก็มาตามนัดเธอที่นัดซื้อฝึกพลังและฝึกร่างกาย ซึ่งชุดที่ Bruno ใส่ในฉากนี้ก็เหมือนกันในคอมมิกที่ เสื้อเชิ๊ตด้านในเป็นสีน้ำเงิน และเสื้อกั๊กด้านนอกเป็นสีแดงนั่นเอง
18. หนัง Bollywood
ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของ Kamala และ Kamran ถูกเชื่อมโยงโดยหนัง Bollywood หลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Baazigar หนังที่ดีที่สุดของ Shah Rukh Khan (S.R.K) ในปี 1993 โดย Shah Rukh Khan เป็นหนึ่งในดาราดังและยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของบอลลีวูด และหนัง Baazigar เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จของ Khan โดยหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องการแก้แค้นความโชคร้ายของครอบครัวของเขารวมถึง รวมถึงหนังเรื่อง Dilwale Dulhania Le Jayenge หรือ D.D.L.J. ของ Shah Rukh Khan (S.R.K) อีกเรื่องที่มีชื่อไทยว่า สวรรค์เบี่ยง เปลี่ยนทางรัก ในปี 1995 เป็นหนึ่งในหนังรักบอลลีวูดที่โด่งดังที่สุดในยุค 90 ที่ตัวละครหลักตกหลุมรักในการเดินทางไปยุโรป แต่พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะครอบครัวของพวกเขา
19. การอ้างถึง Kingo
ที่ร้าน Bombay Spice มีการพูดถึง Kingo ในฉากที่ Kamala และ Kamran มานั่งเล่นที่ร้านแห่งนี้ โดย Kingo เป็นตัวละครในหนังเรื่อง Eternals และเป็น Eternals ที่เป็นดารา Bollywood มาหลายยุคการพูดถึง Kingo ถือเป็นความเชื่อมโยงของเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นใน MCU ที่มีความสัมพันธ์กันนั่นเอง โดยแม่ของ Kamala และ Kaman ก็ชอบ Kingo อย่างมากเช่นกัน โดยเฉพาะแม่ของ Kamran ที่ชอบ Kingo คนพ่อก็คือ Kingo ในยุคแรกๆของ Bollywood
20. ประวัติศาสตร์การแบ่งแยกดินแดนของอินเดียและปากีสถาน
เรื่องราวของตอนนี้ในฉากโต๊ะกินข้าวของครอบครัง Kamala โดยพ่อของเธอเล่าเรื่องราวในยุคที่อินเดียแยกดินแดนโดย ณ ตอนนั้นเมื่ออินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ ทำให้อินเดียมีปัญหาในเรื่องการนับถือศาสนา โดยชาวอินเดียส่วนใหญ่ของประเทศนับถือฮินดู ส่วน 1 ในสามของประเทศนับถืออิสลามนั่นเอง นั่นจึงเกิดการเรียกร้องให้มีการแบ่งแยกดินแดนและเคลื่อนย้ายประชากร โดยชาวมุสลิมได้แยกตัวไปอยู่ในดินแดนปากีสถานตะวันตก ซึ่งคือประเทศปากีสถานในปัจจุบัน และอีกโซนนึงคือปาากีสถานตะวันออกซึ่งในเวลาต่อมาถูกเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศบังคลาเทศ โดยเหตุการณ์ใน Ms. Marvel พูดถึงรถไฟขบวนสุดท้ายของการเคลื่อนย้ายประชากรชากรมุสลิมในอินเดียไปยังปากีสถานนั่นเอง
21. ยาย Sana ของ Kamala
โดยยายของ Kamala หรือคุณยาย Sana ก็พลัดพรากจากพ่อแม่ของเธอหรือทวดของ Kamala จากเหตุการณ์นี้ทิ้งไว้เพียงเบาะแสของกำไล และปมที่เราจะต้องพิสูจน์กันในตอนต่อๆ ไป แต่การกลับไปหาพ่อขอบคุณยาย Sana เธอเดินไปตามทางเส้นทางดวงดาว ที่ประโยคนี้น่าจะเป็นปมอีกปมนึงที่ทำให้เราลุ้นว่าเส้นทางดวงดาวของคุณยายมีความหมายต่อการเป็น Ms. Marvel ของ Kamala หรือไม่
22. ทวด Aisha ของ Kamala
ฉากนึงที่ Kamala และคุณยายได้ VDO Call คุยกัน ซึ่งผู้หญิงที่มารับบทเป็นยายของ Kamala ชื่อว่า Samina Ahmed ดาราชื่อดังของปากีสถาน ซึ่งเธอก็มีเบาะแสเล็กๆเกี่ยวกับทวด Aisha ของ Kamala ที่มีความเกี่ยวข้องกับกำไล และพลังของเธอ และการเป็น Iทhuman นั่นเอง ซึ่งหลังจากที่มีการพูดถึงเรื่องราวของคุณทวด Aisha ก็เหมือนว่ากำลังจะแสดงพลังออกมาดวงตา Kamala เปล่งแสงสีม่วงและเหมือนจะมีผู้หญิงปรากฏตัวออกมา ใน EP.1 ตอนที่ Kamala ใส่กำไลครั้งแรกและเข้าไปยังมิติลึกลับสีม่วงดินแดนนั้นอาจจะเป็นบรรพรุษของเธอที่เป็น Inhuman กับอีกฉากในขณะที่ Kamala กำลังช่วยเด็ก เธอก็เห็นนิมิตของผู้หญิงคนนึงที่หน้าเหมือนแม่ Kamran ซึ่งเดาว่าแม่ Kamran อาจจะมีหน้าเหมือนทวด Aisha ของ Kamala หรือนี่อาจจะเป็น ทวด Aisha ที่ไม่เคยแก่เลยตั้งแต่วันนั้นที่หายตัวไป หรือไม่ก็อาจจะเป็น Skrulls ปลอมตัวมา หรือการที่ทวดได้พลังจากกำไลที่เป็นพลังคอสมิก ทำให้เธอไม่แก่เหมือน Carol Danvers ที่ได้รับพลังคอสมิกจาก Tesseract นางก็ดูไม่แก่เลยเช่นกัน ตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้หมดตอนนี้เรามาลุ้นใน EP ต่อๆไปครับ
23. อัลบัมเพลง “Slippery When Wet” ของ Bon Jovi
ถือว่าเป็นอัลบัมเพลงที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของพ่อและแม่ของ Kamala เพราะแม่ของเธอชื่นชอบเพลงของ Bon Jovi อย่างมากและเพลงนี้ทำให้แม่และพ่อของ Kamala รักกันนั่นบ่งมากว่าวัฒธธรรมป๊อบยุค 90 มีอิทธิพลต่อเรื่องราวของซีรีส์ Ms. Marvel มากเพียงใดและ Bon Jovi ก็เป็นคน Jersey City เมืองที่ตัวละครใรเรื่องนี้อาศัยอยู่นั่นเอง
24. เทศกาล Eid Mubarak
ในงานเทศกาล Eid Mubarak ก็มีการพูดถึงกลุ่มคนต่างๆ มากมายในระหว่างที่ Nakia มาหาคะแนนเสียงตัวเองที่กำลังจะลงเลือกตั้งเป็นกรรมการสุเหร่า ซึ่งเราจะเจอกลุ่มคนต่างๆ และประเด็นสำคัญดังนี
- คนขายอาหาร Food Truck ซึ่งฉากที่เด็กที่ กมลาได้ช่วยพูดถึงไอศครีมพิซซ่า ชายคนก็พูดตามมานั่นเอง ทำให้เป็นมีมฮิตในช่วงเวลาต่อมาของเหตุการณ์ในโลก Social เลย
- แกงค์มนุษย์ป้า Illuminaunties ซึ่งชื่อแกงค์ก็ตั้งใจให้คล้ายกลับทีม Illuminati โดยสัญลักษณ์ของแกงค์ป้าก็เป็นรูปตาเหมือนสัญลักษณ์ Illuminati นั่นเอง ซึ่ง Kamala ก็ได้เข้าไปถามถึงประเด็นที่เกี่ยวกับทวดของเธอและได้ข้อมูลมามากมาย
- แกงค์ Mosque Bro’s ในแกงค์นี้มี Camio ของผู้กำกับของเรื่องนี้นั่นคือ Bilall Fallah (บิลัล ฟอลลาห์) ซึ่งเขาเป็นนึ่งในผู้กำกับร่วมกับอีกคนคือ Adil El Arb ซึ่งแกงค์นี้เป็นคนเกรียนๆ ไม่คนสนอะไรเท่าไร
- แกงค์ Pious Boys เป็นแกงค์หนุ่มๆ ที่เคร่งศาสนา
- แกงค์อาจารย์วันอาทิตย์ Sunday School Teacher
- แกงค์ Insta Clique สังเกตจาก Tag ครับก็มี #Blessed #Deen
- แกงค์ มุสลิมใหม่ หรือ The Convert แต่ Kamala ก็เปลี่ยนชื่อแกงค์นี้ว่า The Re-Verts
- แกงค์ Mini Harami Girls
25. แกงค์คุณป้าขาเม้าส์ Illuminaunties กับเรื่องราวของทวด Aisha
เมื่อ Kamala ถามเรื่องราวของทวดของเธอกับแกงค์ป้าๆนี้ ทำให้ได้ข้อมูลมามากมาย หลายคนบอกว่ามีคนรู้จักยายทวดของเธอมากมาย มีคนนึงบอกว่าทวดของเธอทำเรื่องน่าอายเอาไว้ บางคนเรียกทวดว่ายายงูพิษแตะต้องอะไรจะโดนคำสาปมีอันเป็นไป บ้างก็ว่าทวดของเธอมีชู้และแอบหนีไปด้วยกัน บางคนก็บอกว่าทวดได้ฆ่าคนตายในช่วงแยกประเทศ
26. Frog Man ในโลก Social
จากเหตุการณ์ที่กมลาได้ช่วยเด็กชายคนนึง ทำให้เป็นที่พูดถึงในโลก Social ผู้ใช้งานคนนึงมีชื่อว่า FrogManJulz ซึ่งจากฉากตัวอย่างมีการปรากฏตัวของตัวละคร Frog Man ที่จะปรากฏในซีรีส์เรื่องนี้ในตอนหลังๆนี้ด้วย ซึ่งเราต้องมาติดตามกันต่อไปว่า Frog Man จะออกมาในรูปแบบไหนครับ
27. ท่า Landing Hero ของ Natasha Romanoff
ท่าการ Landing ของเธอถูกพูดถึงมาแล้วใน EP.1 ซึ่งใน EP.2 นี้ก็เธอก็ยังใช้ท่า Landing Hero ของ Natasha Romanoff เช่นเดิมนั่นทำให้ Natasha Romanoff คือหนึ่งในซีโร่ Avengers ที่มีอิทธิพลต่อฮีโร่ยุคหลังๆนั่นเอง
28. การไล่ล่าจากโดรนใน Spider-Man: Far From Home
หลังจากเรื่องราวใน Spider-Man: No Way Home ที่ Peter Parker ถูกไล่ล่าขององค์กร D.O.D.C. ซึ่งเป็นผลมาจากความวุ่นวายใน Spider-Man: Far From Home องค์กรนี้ก็ยึดเทคโนโลยีของ Stark ไว้ทั้งหมดหนึ่งในนั้นก็คือ Stark Drones ที่ปรากฏตัวโดรนตัวนี้ใน Far From Home และใน No Way Home รวมถึงใน Doctor Strange in the Multiverse of Madness อีกด้วย ซึ่งพวกเค้าก็เอาโดรนนี้มาใช้ไล่ล่า Kamala ในช่วงท้ายของซีรีส์ ความดูไม่น่าไว้ใจ และอะไรแปลกที่เกิดขึ้นกับองค์กร D.O.D.C. อาจนำพาเชื่อมโยงไปยังซีรีส์ Armor Wars ที่พูดถึงการทำเอาเทคโนโลยีของ Stark ไปใช้ในทางที่ผิด หรือสอง Agents นี้อาจจะเกี่ยวข้องกับ Skrulls มนุษย์ต่างดางที่ปลอมตัวได้ที่แทรกซึ่งอยู่ในโลกของเราตอนนี้เบาะแสของพวก Skrulls ก็ปรากฏตัวล่าสุดในหนัง Spider-Man: Far From Home และ ซีรีส์ WandaVision และนั้นอาจนำพาเราไปยังซีรีส์ Secret Invasion ในอนาคตด้วยเช่นกัน
29. ปืนคลื่นโซนิกกับความเชื่อมโยงไปยังซีรีส์ She-Hulk
ฉากนึงที่ Kamala กำลังหนีจากการไล่ล่าหน่วยงาน D.O.D.C. มีเจ้าหน้าที่คนนึงใช้ปืนคลื่นโซนิกยิงไล่ล่า Kamala ที่เหมือนกับในตัวอย่างแรกของฉากนึงในซีรีส์ She-Hulk ซึ่งเป็นปืนที่มีรูปลักษณ์เเหมือนกับปืนใหญ่คลื่นเสียงโซนิกที่นายพลรอสเคยใช้ใน The Incredible Hulk ในปี 2008 ที่มีการพัฒนาและย่อส่วนลงมาให้พกพาง่ายขึ้น ซึ่งปืนใหญ่ตอนนั้นออกแบบโดย Stark Industries โดยเราเคยเห็นอาวุธโซนิกแบบนี้มาแล้วใน Spider-Man: Far From Home รวมถึงที่ War Machine ได้ใช้ใน Captain America: Civil War อีกด้วย ซึ่งอาวุธที่ปรากฏขึ้นในซีรีส์เรื่องนี้เพื่อมาต่อต้าน She-Hulk หรือไม่ก็อาจจะเป็นตัวร้ายอย่าง Titania นั่นอาจบ่งบอกว่าองค์กร D.O.D.C. ยังมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวต่อไปใน MCU และซีรีส์ She-Hulk
30. รูปของ Titania ที่ D.O.D.C.
ซึ่งฉากเครดิตของ Ms. Marvel เน้นย้ำว่า D.O.D.C. มีรูปของนักแสดง Jameela Jamil ที่เล่นเป็นวายร้ายคู่ปรับของ She-Hulk อย่าง Titania ติดอยู่ที่บอร์ดขององค์กร นี่คือความเชื่อมโยงที่สำคัญต่อไปของ MCU ที่เราต้องติดตาม
30. เพลงที่ประกอบในซีรีส์ EP.2
ความชื่นชอบอีกเรื่องนึงก็คือการเลือกใช้เพลงประกอบในแต่ละฉากของซีรีส์ในตอนนี้ถือว่าทำได้น่าประทับใจ และโดนใจแฟนๆในยุค 90 เป็นอย่างมากรวมถึงเพลงสไตล์แขกปากีสถานที่ฟังดูน่าสนใจไม่น้อย ซึ่งมีเพลงที่สำคัญในฉากต่างๆ ดังนี้
- เพลง “Feel So Good” ของ Mase ซึ่งเป็นเพลงที่ปรากฏในฉากแรกของ EP.2 นี้ ในตอนที่เธอกำลังเดินเข้าไปในโรงเรียนด้วยความมั่นใจที่มีมากขึ้นกว่า EP.1 เธอมีการต่อปากต่อคำคนรอบๆนั้นมากขึ้น โดยเฉพาะครูที่ชอบเรื่ยกชื่อเธอผิด หรือสองสาวที่ใช้หูฟังบลูทูธที่มายืนขวางอยู่ตรงล๊อกเกอร์ของเธอ ถือเป็นเพลงในยุค 90 ที่มีอิทธิพลต่อเรื่องรางใน Ms. Marvel เนื้อเพลงที่ของเพลงบางส่วนของเพลงนี้ “Bad Bad Bad Bad Boy you make me feel so good…” น่าจะเป็นสื่อถึง Kaทram ที่เขาอาจจะเป็นตัวร้ายของเรื่องนี้ แต่มาทำให้ Kamala รู้สึกดีอารมณ์ประมาณ วายร้ายที่รักเธอ
- เพลง “Goddess” ของ Krewella x Nervo feat. Raja Kumari โดย Krewella เป็นนักร้องชาวอเมริกันเชื้อสายปากีสถาน ส่วนวง Nervo เป็น DJ สองพี่น้องที่ชอบทำเพลงสไตล์เอเชียใต้ผสมกับเพลงตะวันตก รวมถึง Raja Kumari เป็นแร็ปเปอร์และนักร้องชาวอเมริกันอินเดียน เธอชอบผสมผสานอิทธิพลของอินเดียและภาษาฮินดีเข้ากับดนตรีของเธอ โดยเพลงนี้ดังขึ้นในช่วงที่ Kamala และ Bruno กำลังทดสอบพลังของเธอนั่นเอง
- เพลง “Come Around” ของ M.I.A. featuring Timberland ในฉากที่ Kamala และ Nakia กำลังวิ่งเข้ามัสยิดเพลงนี้ก็ดังขึ้น ซึ่งเพลงนี้เป็นผลงานของ M.I.A. ศิลปินแร็พหญิงเอเชียใต้เชื้อสายศรีลังกาชาวอังกฤษ คนแรกที่เคยโด่งดังในยุคนึง เธอเคยมีผลงานร่วมกับราชินีเพลงป๊อปอย่าง Madonda และ Nicki Minaj กับเพลง Give Me All Your Luvin’ ซึ่งรูปแบบของเพลงของ M.I.A. จะออกเป็นแนววิจารณ์ทางการเมืองและสังคม และสงคราม ที่โดนใจ เพราะเธอเติบโตมาท่ามกลางสงครามกลางเมืองในศรีลังกา ในฐานะผู้ลี้ภัยคนนึง ส่วน Timberland ก็เป็นโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันที่โด่งดังในยุค 2000
- เพลง “Jalebi Baby” ของ Tesher เพลงนี้ดูเหมือนจะโด่งดังใน Tiktok โดย Tesher เป็นชาวอินเดียและแคนาดา จังหวะเพลงเป็นการผสมผสาน bhangra กับ Hiphop เข้าด้วยกัน ซึ่งเพลงนี้ก็ดังขึ้นในฉากที่ Kamran โผล่ออกมาจากสระน้ำนั่นเอง
- เพลง “Anthem” ของ Swet Shop Boys เพลงนี้ถูกพูดถึงในตอนที่ Kamala, Bruno, และ Nakia รวมถึงเพื่อนของเค้านั่งรถของ Kamran เพื่อหนีตำรวจจากงานปาร์ตี้ที่บ้าน Zoe เป็นเหมือนจุดเชื่อมโยงที่สร้างความสัมพันธ์แรกให้กับ Kamala และ Kamran ว่าเขามีการฟังเพลงในแนวเดียวกันนั่นเอง
- เพลง “Be My Baby” ของ The Ronettes เพลงนี้ดังขึ้นหลังจากที่ Kamala กลับมาที่บ้านหลังจากที่มีการแลกเปลี่ยนเบอร์กันละกันระหว่าง Kamran กับ Kamala ซึ่งเธอก็ลิปซิงค์ประกอบเพลงนี้ได้อย่างน่ารักมาก โดยศิลปินเจ้าของเพลงอย่าง The Ronettes เป็นเกิร์ลกรุ๊ปชาวอเมริกันมีสมาชิกในวงสามคนได้แก่ ร้องนำ Veronica Bennett, Estelle Bennett พี่สาวของเธอ และ Nedra Talley ลูกพี่ลูกน้องของพวกเขานั่นเอง
- เพลง “Peechay Hutt” ของ Hasan Raheem, Justin Bibis, and Talal Qureshi เพลงตอนจบของเรื่องราวในเครดิต ถือว่าเพลงนี้จังหวะสนุกสนานรับอิทธิพลจากฮิปฮอปและอาร์แอนด์บี โดย Hasan Raheem เป็นนักร้อง-นักแต่งเพลงและแร็ปเปอร์ชาวปากีสถาน ส่วน Justin Bibis เป็นดูโอ้สองสาว Saania และ Muqqadas Tabayda ทั้งคู่เป็นชาวปากีสถานและชอบ Cover เพลงของ Justin Bieber และโด่งดังในโลกออนไลน์ทำให้เป็นที่มาของชื่อในวงการดนตรีของพวกเธอนั่นคือ Justin Bibis นั่นเอง ส่วน Talal Qureshi เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง ดีเจ และโปรดิวเซอร์ชาวปากีสถานหน้าใหม่ และกำลังมีชื่อเสียงในหลายปีที่ผ่านมา