หลังจากที่เราได้ชม Eternals เป็นที่เรียบร้อย Easter Eggs ที่แฝงมาในหลังเรื่องนี้ก็มีปรากฏให้เราได้เห็นเต็มไปหมด รวมถึงความเข้าใจในประวัติศาสตร์ของ MCU มากขึ้น ซึ่ง Eternals ก็ไม่เหมือนกับภาพยนตร์ของ Marvel เรื่องอื่นๆ ที่เราเคยดูมา การผสมผสานสไตล์ของการกำกับภาพยนตร์ของ Chloe Zhao กับเรื่องราวของ MCU ทำให้ดูมีความแปลกใหม่และมีมิติอื่นๆที่น่าสนใจ และทำให้จักรวาลของ MCU แผ่ขยายกว้างขึ้นไปอีก ซึ่งเรื่องราวของ Eternals จะมีการอ้างถึงอะไรบ้าง หรือมี Easter Eggs อะไรเจ๋งๆบ้าง ติดตามครับ
1. ก่อนเอกภาวะ (Singularities) 6 อัตตาได้กำเนิดขึ้น
เริ่มต้นของเรื่องราว ได้เผยให้เราได้รู้ว่า Arishem ได้ถือกำเนิด 6 เอกภาวะ ซึ่งเป็นการอ้างถึงการมาของ Infinity Stone ที่เคยพูดถึงมาแล้วใน Guardians of the Galaxy โดย the Collector ซึ่งเขาก็ได้เคยบอกว่า เอกภาวะ 6 อัตตา เกิดขึ้นก่อนนะมีจักรวาล และเมื่อเอกภาวะระเบิดจึงเกิดเป็นจักรวาลขึ้นมา เศษสะเก็ดจากเอกภาวะก็ได้หลอมรวมกันกลายมาเป็น Infinity Stone ทั้ง 6 เม็ด โดย the Collector ก็ได้เคยแสดงภาพ Celesctials ตันนึงที่ครอบครอง Power Stone อยู่นั่นเอง
2. ยาน Domo
ยานของ Eternals ชื่อว่า Domo ซึ่งชื่อนี้ในคอมมิกคือชื่อของ Eternals คนนึงที่ทำหน้าที่ดูแลดาวเคราะห์ที่ชื่อว่า Olympia มีความคล้ายกับ Metron ของ New Gods ใน DC ซึ่งทำให้เรารู้ว่า MCU เปลี่ยนจากตัวละคร Domo มาเป็นยานของเหล่า Eternals ในภาพยนตร์แทน
3. แหวนของ Black Knight
ของขวัญที่ Sersi ได้มอบให้กับ Dane Whitman เป็นแหวนเก่าประจำตระกูลของ Dane ที่เธออ้างว่าซื้อมันมาจาก eBay แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคือของโบราณ ที่มีมาตั้งแต่ยุคกลางของอารยธรรมมนุษย์ ซึ่งยืนยันชัดเจนว่าแหวนนี้เป็นสัญลักษณ์ของ Black Knight ในสมัยของกษัตริย์อาร์เธอร์ โดยตัวละคร Black Knight สร้างขึ้นโดย Stan Lee และศิลปิน Joe Maneely ในปี 1955 โดยเรื่องราวของ ดาบ Ebony Blade และฉายา Black Knight สืบทอดมารุ่นต่อรุ่น ซึ่ง Dane ก็คือ Black Knght คนปัจจุบันในคอมมิกนั่นเอง
4. การอ้างถึงงการ Blip
เรื่องราวของการ Blip มีการพูดถึงใน Spider-Man: Far From Home และมีความชัดเจนมาขึ้นในซีรีส์ WandaVision ใน EP.4 เมื่อ Thanos ดีดนิ้วในเหตุการณ์ Avengers: Infinity War และเมื่อ Hulk ดีดนิ้วให้ทุกคนกลับมาใน Avengers: Endgame ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อเรื่องราวใน Eternals ซึ่งจากประเด็นข้างต้นทั้งสองวิธีนี้มีการพูดถึงใน Eternals จากคำพูดของ Ajax นั่นเอง
5. WHiH News ปรากฏอีกครั้ง
สำนักข่าวใน WHiH News ถือเป็นสำนักงานข่าวหนังในจักรวาล MCU เคยปรากฏในหนังหลายๆเรื่อง ล่าสุดปรากฏอยู่ในหนังเรื่อง Black Widow และใน Eternals ที่รายงานถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ใน Eternals
6. Dane Whitman อ้างถึง Doctor Strange
เมื่อ Dane ได้พูดกับ Sersi ว่าเธอเป็นชนแม่มดเหมือน Doctor Strange และก็ถามว่า Sersi สามารถเปลี่ยนเขาเป็นยีราฟได้หรือไม่ ซึ่งก็ทำเราได้เข้าใจว่าเรื่องราวของเวทย์มนตร์เป็นที่รู้จักของคนในโลกของ MCU
7. เมือง Babylon
เนื่องจากเริ่มต้นของเรื่องราวใน Eternals เกิดขึ้ในดินแดนเมโสโปเตเมีย เป็นที่จุดกำเนิดของฐานที่ตั้งของเบืองบาบิโลน ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ในคอมมิกเมือง Babylon ที่ Gilgamesh ปกครองเมืองนี้ ซึ่งเหล่า Eternals ไม่ว่าจะเป็น Ajax, Zuras, Ikaris และ Thena ได้ต่อสู้กับเหล่า Devinats ตามเรื่องราวในคอมมิก Eternals: The Herod Factor #1 ซึ่งพูดถึง Kro หัวหน้าเหล่า Deviant ที่มีแผนจะสังหาร Thena แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะไว้ชีวิตเธอจนเป็นจุดเริ่มต้นของความรักของทั้งคู่
8. Sprite กับเรื่องราวที่คล้ายกับ Peter Pan
Peter Pan เป็นเด็กชายที่ไม่เคยแก่ ซึ่งเป็นแรงบัลดาลใจให้กับ Sprite ในคอมมิกที่เป็น Eternals ที่ดูเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่านำเอาโครงเรื่องของตัวละคร Peter Pan มาใช้เป็นตัวแทน Sprite แต่ใน MCU ดูเหมือนว่า Sprite คือ ทิงเกอร์เบล ที่แอบหลงรัก Peter Pan ทั้งๆที่รู้ว่า Peter รักแวนดี้อยู่แล้ว ซึ่งการเปรียบเทียบนี้ Kingo ได้มองออกถึงพฤติกรรมที่ Sprite แอบหลงรัก Ikaris ทั้งๆที่รู้ว่าเขาของ Sersi อยู่แล้วนั่นเอง
9. The Eternals เคยรู้จัก Thor
ฉากในโต๊ะอาหารที่บ้านของ Gilgamesh ได้มีการพูดคุยกับเกี่ยวกับ Avengers รุ่นแรก โดยเฉพาะเรื่องราวของ Thor ที่ Kingo บอกว่าเคยเจอเขาตอนเป็นเด็ก รวมถึง Gilgamesh ก็บอกว่าเขาได้เคยช่วย Odin วางแผนในการรบในสงครามที่รบกับเหล่า Frost Giants ที่เมือง Tønsberg ประเทศ Norway อีกด้วย นอกจากนี้ Sprite ก็ได้ถามความเห็นเกี่ยวกับผู้นำ Avengers คนต่อไปหลังจากที่ไม่มี Captain Rogers และ Iron-Man แล้ว ซึ่ง Ikaris ก็ได้บอกว่าเขานั้นสามารถเป็นผู้นำของ Avengers ได้ตามตัวอย่างของหนังที่เคยปรากฏมาก่อนหน้านี้
10. Isaac และ Sylvia
เมื่อ Ikaris และ Sersi ได้มาหา Phastos ที่บ้านของเขาเขาก็ได้บอกกับครอบครัวว่า Ikaris ชื่อ Isaac และ Sersi ชื่อ Sylvia ซึ่งชื่อ Isaac และ Sylvia นี้คือชื่อของ Ikaris และ Sersi ในคอมมิกที่ใช้เรียกเมื่อพวกเขาได้อยู่ร่วมกับมนุษย์ รวมถึง Ikaris ก็ยังเคยใช้ชื่อย่อว่า “Ike Harris” ในการ์ตูนอีกด้วย
11. Ikaris รู้ว่า Phastos เข้าถึง Vibranium ได้
ถือเป็นมุขที่ตลกในฉากที่ Ikaris และ Sersi มาที่บ้านของ Phastos โดยเขาบอกว่าเขาใช้ชีวิตแบบธรรมดาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่กลายเป็นว่าระบบความปลอดภัย ที่ Phastos ยังใช้พลังของ Eternals คุ้มกันคนในบ้านของเขาอยู่ ซึ่งต่อมา Ikaris ก็ได้ทุบโต๊ะของเขาที่คิดว่าทำมาจากแร่ธาตุที่แข็งแรงที่สุดอย่าง Vibranium ที่ Wakanda แต่แล้วมันก็คือโต๊ะธรรมดาที่ซื้อมาจากอิเกียเท่านั้นเอง
12. Alfred จาก DC Comics
การที่ Kingo มีผู้ติดตามอย่างการุณ ทำให้ Gilgamesh เปรียบเทียบว่าเขาคือ Alfred พ่อบ้านของ Batman ซึ่งในหนังเรื่องนี้มีการอ้างถึง จักรวาล DC บ่อยมากทำให้แน่นอนมันคือตัวละครที่โด่งดังในโลกของเรา และทั้งหมดทั้วถึงกันหรือไม่แน่อาจมีการรวมจักรวาล DC ปะทะ Marvel ก็เป็นได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้หมดในตอนนี้
13. โล่ Captain America แรก บนเครื่องบินของ Kingo
ถือว่าเราเห็น Easter Eggs นี้แล้วจากตัวอย่างแรกของ Eternals ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านั้นซึ่งเราเห็น โล่ Captain America ซึ่งเป็นโล่ที่ Steve Rogers ใช้ใน Captain America: The First Avenger ซึ่งต่อมาโล่นี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็นโล่ที่ทำมาจาก Vibranium ที่พ่อของ Tony Stark หรือ Howard Stark ได้ประดิษฐ์ให้นั่นเอง ที่มาที่ไปของโล่บนเครื่องบินของ Kingo ยังไม่มีความแน่ชัดแต่ Kingo อาจจะไปซื้อเอาไว้ตามร้านขายของเก่า เพื่อเป็นที่ระลึก หรือทว่าเขาเคยพบกันมาก่อนในอดีตก็เป็นได้
14. โรค Mahd Wy’ry (มาท์ด ไวร์รี่) ของ Thena
Thena เทพีแห่งสงครามนักรบหญิงของ Eternals มีความผิดปกติในความจำของตนเองชั่วขณะ ซึ่งเธอกลับไปจำความทรงจำครั้งสุดท้ายของเธอในขณะที่เธอทำภารกิจอยู่ที่ดาวดวงอื่นก่อนหน้านี้ ซึ่งการแก้ไขโรคนี้ของเธอจะต้องลบล้างความจำใหม่ทั้งหมดให้เธอ ซึ่งก็ต้องแลกกับความทรงจำบนโลกที่หายไป โรคนี้เคยพูดถึงในคอมมิกมาแล้วใน Avengers #361 เมื่อ Sersi เกิดความผิดปกติเดียวกันนี้กับเธอ
15. Makkari ในห้อง Labs ของ Phastos กับของสะสมมากมาย
เราเห็นฉากที่ Makkari นั่งอ่านหนังสือท่ามกลางของสะสมมากมายนยาน Domo โดยก็แฝงไปด้วย Easter Eggs เยอะมาก เช่นชุดเกราะที่ทำให้เรานึกถึงชุดของ Moon Knight และในคอมมิกและมีความเกี่ยวข้องกับเมืองอียิปต์โบราณ รวมถึง Emerald Tablet หรือที่เรียกว่า Smaragdine Tablet หรือ Tabula Smaragdina หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่า คัมภีร์มรกตที่มีอายุเก่าแก่มาก ถึงสามหมื่นหกพันปี ก่อนคริสต์กาล ที่ผู้เขียนคำภีย์นี้เป็นชาวแอตแลนติส ซึ่งน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของมนุษย์ในสมัยโบราณได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี Holy Grail จอกศักดิ์สิทธิ์ของตำนานอาเธอร์ ที่มีความเกี่ยวข้องกับ Black Knight รวมถึงขนมต่างๆ มากมายโดยเฉพาะปาริก้า ขนทขบเคี้ยวที่คนไทยรู้จักกันดี
16. ดาบ Excalibur ของกษัตริย์อาร์เธอร์ และปราสาท Camelot
ดูเหมือนว่า Eternals กลุ่มเคยอาศัยอยู่ที่ปราสาทคาเมล็อต (Camelot) ของ กษัตริย์อาร์เธอร์ Thena ได้ถือดาบ Excalibur ของกษัตริย์อาร์เธอร์ มาจับเล่นในฉากที่พวกเขาได้ไปหา Makkari ที่ยาน Domo ซึ่งทำให้นึกถึง Lady of the Lake of Arthurian (เทพธิดาแห่งทะเลสาบ) ที่มีความเกี่ยวข้องกับดาบนี้ในตำนานของชาวอังกฤษ โดยเปรียบ Thena เป็น Lady of the Lake of Arthurian นั่นเอง นอกจากนี้ Camelot เป็นเมืองอุดมสมบูรณ์ที่เคยอ้างอิงจากคอมมิก Black Knight: Curse of the Ebony Blade #2 และเป็นตำนานของตัวละครของ Marvel ที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดของคนอังกฤษเช่น Black Knight, Captain Britain และโลกลึกลับในมิติอื่นที่กษัตริย์อาร์เธอร์ ได้อยู่
17. Sersi บอก Dane Whitman ให้คืนดีกับลุงของเขา
เมื่อรู้สึกว่าโลกกำลังจะถึงจุดจบ Sersi บอก Dane Whitman ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่จะคืนดีกับลุงของเขา เพื่อต้องการให้เขาตายอย่างสงบและไม่เสียใจ เป็นฉากที่ประทับใจมาก ทำให้รู้สึกว่า Sersi เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ได้ดีเพียงใด แต่ก็เป็น Easter Eggs ในตัวของมันเองด้วยสำหรับฉากนี้เพราะลุงของ Dane คือ John Garrett ผู้ที่ใช้ดาบ Ebony Blade ที่น่าสมเพชที่สุดในจักรวาลมาร์เวล สร้างความอับอายให้กับตระกูลของเขา และ Dane คือผู้สืบทอดเรื่องราวของ Black Knight อย่างแน่นอน
18. เมล็ดพันธุ์ของ Celestial ที่ฝังอยู่บนโลก
ในหนังเรื่องนี้มีการเปิดเผยถึงเรื่องราวของการกำเนิด Celestials โดยการฝังเมล็ดพันธุ์ไว้ที่แกนของดาวเคราะห์เป็นเวลาหลายพันล้านปี การที่โลกมีสิ่งมีชีวิตมากพอที่จะสามารถดูดพลังงานของพวกเขาเพื่อทำให้ Celestials มีการเจริญเติบโตจนถึงวันของการอุบัติ โดยแนวคิดการกำเนิดของ Celestials นี้ได้นำมาจากคอมมิกซีรีส์ที่ชื่อว่า Earth X ซึ่งในคอมมิก Celestials เติบโตจากการกินทรัพยากรธรรมชาติของโลก แต่ใน MCU เป็นการดูดพลังงานชีวิตแทน และ Eternals อยู่เพื่อปกป้องมนุษย์เพื่อให้พลังชีวิตเข้าสู่เมล็ดพันธุ์ของ Celestials อย่างเต็มที่นั่นเอง
19 . Tiamut ผู้หลับไหล Celestial ผู้ถือกำเนิดบนโลก
ในคอมมิก Tiamut เป็น Etenals ที่ต่อต้าน Arishem และถูกมาขังไว้ที่โลกของเรา โดย Tiamut เป็นที่รู้จักในนาม Dreaming Celestial นอนหลับมานับพันปีในขณะที่มนุษย์นั้นกำลังพัฒนาการขึ้น โดยตอนท้าย Tiamut ไม่สามารถทำลายโลกได้ และเลือกให้ Makkari ให้เป็นPrime Eternal เพื่อใช้ให้เขาติดต่อกับ Tiamut นั่นเอง ภายหลัง Tiamut ได้ยืนอยู่เหนือเมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งกลายเป็นบ้านของ เหล่า X-Men สุดท้าย Tiamut จบชีวิตลงจากเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ Multiverse ของเหล่า X-Men นั่นเอง
20. ท่ายิงลำแสงของ Ikaris
เมื่อ Phastos สามารถควบคุม Ikaris ได้อย่างน่าประหลาดใจในระหว่างการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของการยับหยั้งการอุบัติของ Tiamut เมื่อเขาได้พยายามขัดขืนการควบคุมจาก Phastos ทำให้เขาเงยหน้ายิงลำแสงพุ่งไปยังท้องฟ้า ซึ่งเป็นฉากที่เหมือนกับภาพปกของคอมมิก Eternals #6 ที่ตีพิมพ์ในปี 2009 ซึ่งถือเป็นภาพที่นิยมมาก และเราได้เห็นภาพนี้ในหนังเรื่อง Eternals จริงๆในจอภาพยนตร์เป็นอะไรที่น่าประทับใจที่สุด
21. Ikaris เทียบกับ Superman
ดูเหมือนว่าตัวละคร Ikaris จะมีเงาของ Superman อยู่มากด้วยการแสดงพลังยิงลำแสงจากดวงตา สามารถบินได้และมีความแข็งแกร่งที่คล้ายกัน เพียงแต่ Ikaris ไม่มีผ้าคลุมสีแดงเหมือน Superman นั่นเอง นอกจากนี้ Ikaris ก็เปลี่ยนมิติตัวละครให้เป็นเหมือน “Dark Superman” ซึ่งฉากที่เขาได้มาหา Phastos ลูกของเขาก็คิดว่า Ikaris คือ Superman อีกด้วย
22. บินสู่ดวงอาทิตย์
หลังจากที่เหตุการณ์การอุบัติสงบลงทำให้ Ikaris ต้องเสียใจและเกิดความละอายใจ เขาได้บินออกจากโลกพุ่งตรงไปยังดวงอาทิตย์ เหมือนว่าจะเป็นการพลีชีพตัวเองให้มอดไหม้ที่ดวงอาทิตย์ แรงบัลดาลใจนี้ดูเหมือนเรื่องราวของ Icarus เทพกรีกที่มีปีกและจบชีวิตเพราะการบินเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ซึ่งใน Etenals เรื่องราวของ Icarus ได้มีการอ้างถึงโดย Sprite และก็มีความคล้ายกับในคอมมิกที่ลูกชายของ Ikaris ได้รับปีกที่สร้างขึ้นให้โดยพ่อของเขา แต่แล้วลูกขายของเขาก็ต้องจบชีวิตลงเพราะว่าเข้าใกล้กับดวงอาทิตย์มากเกินไปนั่นเอง
23. Pip The Troll
ฉากเครดิตแรกของ Eternals มีการแนะนำตัวละคร Pip the Troll ผู้เมามาย พากษ์เสียงโดย Patton Oswalt ซึ่งในคอมมิกเขามีความเกี่ยวข้องกับ Adam Warlock และเป็นผู้ที่เคยดูแล Space Stone อยู่ในช่วงเวลานึง และยังช่วย Adam Warlock ต่อต้านด้าน Magus ร่างอวตารของ Adam ที่เป็นด้านมืดอีกด้วย ซึ่งเป็นที่น่าสนใจมากกว่าในอนาคตของ MCU Pip the Troll อาจเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงกับ Adam Warlock ก็เป็นได้
24. Starfox
คือตัวละครที่รับบทโดย Harry Styles ซึ่งเป็นน้องชายของ Thanos ที่ชื่อ Eros โดย Eros ถือเป็นตัวละครที่นอกรีตของบ้านเกิด แต่เริ่มคิดได้เมื่อ Thanos เข้ามาโจมตีดาว Titan ซึ่งพลังพิเศษของเขาสามารถควบคุมอารมณ์ของผู้อื่นได้ และกระตุ้นทำให้คนนั้นสามารถมีความสุขได้ชั่วขณะ ซึ่งก็สามารถทำให้บุคคลนั้นอ่อนไหวได้นั้นเอง ซึ่งเขามักจะใช้พลังแบบนี้กับหญิงสาวที่เขาหมายปอง ซึ่งก็มีความเกี่ยวข้องกับ She-Hulk ที่เขาโดนคดีความในเรื่องราวการล่อลวงผู้หญิงให้นอนกับเขา
25. Ebony Blade
ดาบ Ebony Blade ถูกพูดถึงในฉากที่ เหล่า Eternals มาเจอ Makkari ที่ยาน Domo แต่ Thena ก็ได้บอกว่านี่มันคือดาบ Excalibur แต่แล้วเครดิตที่ 2 ก็ทำให้เราได้เห็นดาบ Ebony Blade ของจริงที่มีผ้าพันอยู่ ซึ่งการที่ Dane เปิดหีบที่มีดาบนี้ออกมาก็เพราะอาจจะใช้มันเพื่อช่วย Sersi ก็เป็นได้ ซึ่งเขาอาจได้ดาบนี้มาจากลุงของเขาหลังจากที่ Sersi ได้บอกให้เขาไปพบลุงและคืนดีกับลุง เพราะเหตุการณ์ในเครดิตเกิดขึ้นหลังจากที่หยุดการอุบัติของ Tiamut ได้ 2 สัปดาห์นั้นเอง ถึงแม้ว่า Dane จะยังไม่ใช่ Black Knight ใน Eternals แต่เขาน่าจะได้เป็นอัศวิน Black Knight ในอีกไม่ช้านี้แน่นอน
26. นักล่าแวมไพร์
ขณะที่ Dane กำลังจะหยิบดาบขึ้นมา เสียงชายผู้หนึ่งก็ดังขึ้น โดยเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่า คือเสียงของ Mahershala Ali ที่ทาง MCU ประกาศออกมาเมื่อปี 2019 ว่าชายผู้นี้จะมารับบทเป็น Blade ในจักรวาลของ MCU ซึ่งในคอมมิก Blade และ Black Knight ต่างอยู่ในทีมฮีโร่ที่เรียกว่า MI-13 ทีมฮีโร่จากฝั่งสหราชอาณาจักร ซึ่งเทียบเท่ากับทีม Avengers ของอเมริกา ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าที่จะมีการสร้างทีมฮีโร่ของฝั่งอังกฤษก็เป็นได้
27. ไทม์ไลน์ต่างๆที่ปรากฏอยู่ในเรื่องนี้
- พันล้านปีก่อนการกำเนิดโลก – ได้พูดถึงเรื่องราวของการกำเนิด Celestials ซึ่ง Celestials ก็เป็นผู้สร้างดวงอาทิตย์ และจักรวาลต่างๆ โดนความลับของการกำเนิดเผ่าพันธุ์ Celestials ที่ฝังเมล็ดพันธุ์ไว้ที่ดาวเคราะห์เพื่อรอการอุบัติ
- ล้านปีก่อนปัจจุบัน – Celestials ส่ง Deviants เพื่อควบคุมผู้ล่าของระบบนิเวศของดาวเคราะห์ไม่ให้มีจำนวนประชากรลดลง เพราะจะทำให้ส่งพลังของสิ่งมีชีวิตให้สามารถเพียงพอต่อการอุบัติของ Celestials แต่ Deviants กลับกลายเป็นผู้ล่าซะเองจึงทำให้ Celestials สร้าง Eternals ขั้นมาเพื่อมาต่อต้าน Deviants
- 5000 ปีขึ้นไปก่อนคริสตกาล – Eternals มาที่โลกครั้งแรกในยุคเมโสโปเตเมียเพื่อมาช่วยมนุษย์จาก Deviants รวมถึงพัฒนามนุษย์ให้มีเทคโนโลยี มากมายจนประชากรเพิ่มขึ้นจนกลายมาเป็นอาณาจักรบาบิโลน
- 400 ปีขึ้นไปก่อนคริสตกาล – มนุษย์เริ่มมีพิธีกรรมและประเพณีที่สืบทอดกันมา จนทำให้ Ikaris และ Sersi ได้แต่งงานกัน ซึ่งช่วงนั้นตรงกับอารยธรรมของอาณาจักรครุปตะ
- ช่วงปี ค.ศ. 1521 – เป็นการล่มสะลายของ จักรวรรดิ Aztec ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ของทวีปอเมริกาใต้โดยเฉพาะประเทศเม็กซิโก
- ช่วงปี ค.ศ. 1945 – ตรงกับเหตุการณ์ของสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการใช้ระเบิดปรมณูที่ฮิโรชิมา และตรงกับช่วงเวลาของเรื่อง Captain America: Thr First Avengers ทำให้ Phastos หมดความศรัทธาในตัวมนุษย์
- หนึ่งสัปดาห์ก่อนเกิดการอุบัติ
- ปี 2024 ขณะเกิดการอุบัติ – ซึ่งตรงกับช่วง Spider-Man: Far From Home
- สองสัปดาห์หลังการเกิดการอุบัติ – Eternals ถูกจับตัว Eros ปรากฏตัว และ Dane เปิดหีบ Ebony Blade
